ทีมนักวิจัยจาก Southern University of Science and Technology ประเทศจีน เปิดตัวต้นแบบ DNA Cassette Tape ที่ผสานเทคโนโลยีชีวภาพกับแนวคิดเทปคาสเซ็ตยุค 80-90 เพื่อสร้างสื่อบันทึกข้อมูลที่เล็ก ทนทาน และเก็บได้นานนับพันปี ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในโลกการจัดเก็บข้อมูล
ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับการระเบิดของข้อมูล ทุกการคลิก การอัปโหลดภาพ และคลิปสั้นบนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok หรือ Reels ล้วนสร้างข้อมูลใหม่ขึ้นทุกวินาที ฮาร์ดดิสก์และเซิร์ฟเวอร์แบบดั้งเดิมเริ่มถึงขีดจำกัด ไม่สามารถรองรับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณได้ หากไม่หาทางแก้ไข โลกอาจไม่สามารถเก็บข้อมูลที่สร้างขึ้นในอนาคตได้เพียงพอ
DNA สุดยอดสื่อเก็บข้อมูลของธรรมชาติ
DNA ไม่ได้มีหน้าที่แค่เก็บรหัสพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต แต่ยังเป็นตัวเก็บข้อมูลที่มี ความหนาแน่นสูงมาก สามารถบันทึกข้อมูลได้มหาศาลในพื้นที่ขนาดเล็ก และมีความทนทานสูงจนสามารถคงสภาพได้นับพันปี จึงกลายเป็นคำตอบสำหรับยุคที่ข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
DNA Cassette Tape นวัตกรรมจากแรงบันดาลใจยุค 90
ทีมนักวิจัยได้แรงบันดาลใจจากเทปคาสเซ็ตในอดีต ออกแบบเทป DNA ที่ทำจาก โพลีเอสเตอร์-ไนลอน บนผิวหน้าเทปมี บาร์โค้ดจิ๋วนับล้าน ทำหน้าที่เสมือนโฟลเดอร์ย่อยสำหรับจัดเก็บข้อมูล
กระบวนการทำงานคือ แปลงข้อมูลดิจิทัลเป็นรหัส DNA (A, C, G, T) ก่อนบันทึกลงบนเทป และเคลือบด้วยผลึกป้องกันเพื่อคงสภาพโดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า สามารถเก็บรักษาข้อมูลได้ยาวนานเป็นพันปี
ความจุเหนือจินตนาการ
ผลการทดสอบสามารถ บันทึกและกู้คืนไฟล์ภาพดิจิทัล ได้สำเร็จในเวลาเพียง 50 นาที โดยเทป DNA ความยาวเพียง 100 เมตร สามารถเก็บข้อมูลได้มากถึง 3 พันล้านเพลง หรือเทียบเท่ากับฮาร์ดดิสก์มากกว่า 36,000 ลูก
อนาคตของดาต้าเซ็นเตอร์
หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาเต็มรูปแบบ ดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคตอาจไม่จำเป็นต้องเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่กินไฟมหาศาลอีกต่อไป แต่เปลี่ยนเป็น ห้องเก็บเทป DNA ขนาดเล็ก ที่รองรับข้อมูลได้มากกว่าหลายพันเท่า
งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances และได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากวงการเทคโนโลยีทั่วโลก เพราะนี่ไม่ใช่เพียงแนวคิดไซไฟ แต่เป็นก้าวแรกของ การปฏิวัติระบบจัดเก็บข้อมูล ที่อาจเปลี่ยนโลกในอนาคต
DNA-Cassette Tape ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดของเทคโนโลยีสตอเรจแบบเดิม แต่ยังเป็นแนวทางใหม่ที่อาจเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมดิจิทัลและการจัดเก็บข้อมูลของมนุษยชาติอย่างถาวร
tags : hindustantimes
