All-new Audi A6 2025 เปิดตัวโฉมซีดานครั้งแรกในโลกที่ยุโรป

All-new Audi A6 (C9) 2025

All-new Audi A6 2025 ตัวถังซีดาน 4 ประตู ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่ยุโรป เน้นจุดขายด้วยตัวถังที่มีความลู่ลมมากที่สุดในตระกูลรถสันดาปของอาวดี้ พร้อมขุมพลังไมลด์ไฮบริด MHEV plus ที่มีทั้งเบนซินและดีเซล

หลังจากที่มีการเปิดตัว Audi A6 Avant ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดอาวดี้เผยโฉมเวอร์ชัน Sedan พร้อมเปิดรับจองจากลูกค้าชาวยุโรปตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป มาพร้อมดีไซน์ด้านหน้าที่ยกมาจากรุ่น Avant และปรับเปลี่ยนดีไซน์ส่วนท้ายคล้ายกับรถฟาสต์แบ็กอย่าง A7 โดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์เป็นสำคัญ

อาวดี้ระบุว่า All-new A6 Sedan มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียง 0.23 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในตระกูลรถสันดาปของอาวดี้ตั้งแต่เคยผลิตมา ควบคู่ไปกับการออกแบบดิฟฟิวเซอร์ท้ายขนาดใหญ่เพื่อให้มีความสมดุลและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่

Audi A6 ใหม่ สามารถติดตั้งช่วงล่างแบบ adaptive air suspension ที่ลดความสูงลง 20 มม. เมื่อเทียบกับช่วงล่างปกติ และลดเพิ่มอีก 10 มม. เมื่อเปิดโหมด Dynamic ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว รวมถึงสามารถติดตั้งระบบ all-wheel steering ที่ปรับองศาล้อหลังได้สูงสุด 5 องศา

รุ่น Sedan ยังเพิ่มประสิทธิภาพการลดเสียงรบกวนจากภายนอกขึ้นอีก 30% โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบซีลประตูและกระจกหน้าต่างที่ช่วยป้องกันเสียงรบกวนได้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับติดตั้งยางขนาด 19 นิ้ว ที่มีเสียงรบกวนต่ำ และการออกแบบแท่นเครื่องและเกียร์ให้สามารถซับแรงสะเทือนและช่วยลดเสียงรบกวนลง

ด้านขุมพลังถูกติดตั้งเทคโนโลยีไมลด์ไฮบริด MHEV plus ที่มาพร้อมมอเตอร์ขนาด 24 แรงม้า (PS) แรงบิด 230 นิวตัน-เมตร เพื่อใช้ในการเร่งออกตัวและเร่งแซง สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนที่ความเร็วต่ำ หรือขณะไหลไปตามการจราจรได้ และยังสามารถสร้างกระแสไฟได้สูงสุด 25 kW เพื่อป้อนแก่แบตเตอรี่ขณะลดความเร็ว

All-new Audi A6 สามารถเลือกได้ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 TDI กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) และเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 2.0 TFSI กำลังสูงสุด 367 แรงม้า (PS) โดยทั้งคู่จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน MHEV plus เป็นมาตรฐาน ขณะที่ขุมพลังเริ่มต้นจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน TFSI กำลังสูงสุด 204 แรงม้า

Audi A6 Sedan จะถูกประกอบที่โรงงานในเมือง Neckarsulm ประเทศเยอรมนี เพื่อส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 55,000 ยูโร หรือประมาณ 2 ล้านบาทเศษ