Denza Z ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด "Pure Emotion"
ผสานดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวกับนวัตกรรมล่าสุดของ BYD ไฮไลท์เทคโนโลยีเด่นของรุ่นนี้ ได้แก่
- DiSus-M ระบบช่วงล่างแม่เหล็กไฟฟ้า ปรับความหนืดในเวลาไม่ถึง 10 มิลลิวินาที มอบทั้งความนุ่มและการเกาะถนนเหนือระดับ
- Steer-by-Wire ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพิ่มความแม่นยำและความปลอดภัย ลดข้อจำกัดด้านดีไซน์ภายใน
- e3 Platform มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ช่วยกระจายแรงบิดอย่างแม่นยำ รองรับการขับขี่แบบสปอร์ตอย่างแท้จริง
การเปิดตัว รถสปอร์ตหรูนี้ ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่า BYD พร้อมรุกตลาดหรูในระดับโลกเต็มตัว หลังจากที่แบรนด์ เดนซ่า เดิมเคยเป็นบริษัทร่วมทุนกับ Mercedes-Benz แต่ตอนนี้ BYD เป็นเจ้าของเต็มรูปแบบ และเพิ่งเริ่มเจาะตลาดยุโรปเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
บีวายดี ยังประกาศแผนขยายตลาดสมรรถนะสูงสู่ยุโรปและสหราชอาณาจักรในปี 2026 โดยอาศัยจังหวะที่ Porsche กำลังเผชิญกับยอดขายที่ซบเซาในจีน ไม่ใช่แค่ Denza Z เท่านั้นที่เป็นไฮไลต์ BYD ยังเปิดตัว Yangwang U8L SUV รุ่นใหม่ในงานเดียวกัน เพื่อตอกย้ำความตั้งใจครองตลาดหรูทุกรูปแบบ
ด้านผลงานโดยรวม BYD ยังแข็งแกร่งเหนือคู่แข่ง
- ปี 2024 รายได้ทะยานแตะ 107 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แซง Tesla ที่ 97.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ส่งมอบยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) กว่า 4.27 ล้านคัน
- ไตรมาสแรกปี 2025 มียอดขาย NEV กว่า 1 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อน
- BEV (รถไฟฟ้าแบตเตอรี่) ของ บีวายดี ขายแซง Tesla เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน
แม้จะต้องรับมือกับแรงกดดันทางการค้าจากสหรัฐฯ และยุโรป แต่ BYD ยังเดินหน้าสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จเมกะวัตต์กว่า 4,000 แห่งทั่วจีน และตั้งเป้าเพิ่มยอดขายนอกประเทศเป็นสองเท่าแตะ 800,000 คันภายในปี 2025 เดนซ่า Z จึงไม่ใช่แค่รถต้นแบบ แต่คือสัญลักษณ์ของความทะเยอทะยานครั้งใหม่จากจีน สู่สนามแข่งขันระดับโลกอย่างแท้จริง
tags : cnevpost