วอลต์ ดิสนีย์ (The Walt Disney Company) ประกาศเปิดตัวโครงการสวนสนุกแห่งใหม่ล่าสุด “Disneyland Abu Dhabi” อย่างเป็นทางการ สร้างความตื่นเต้นครั้งใหญ่ในวงการท่องเที่ยวและความบันเทิงระดับโลก โดยโครงการนี้จะกลายเป็นรีสอร์ตดิสนีย์แห่งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง และถือเป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งแรกที่มีการประกาศสร้างใหม่ในรอบกว่า 15 ปี นับตั้งแต่เปิดตัว “Shanghai Disneyland” ในปี 2010
Disneyland Abu Dhabi ทำเลทองระดับโลกบน “เกาะยาส”
โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างดิสนีย์กับ Miral บริษัทด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การดูแลของรัฐบาลอาบูดาบี ผู้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยน “เกาะยาส (Yas Island)” ให้กลายเป็นศูนย์กลางความบันเทิงระดับโลก ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของ Disneyland Abu Dhabi อย่างเต็มรูปแบบ
เกาะยาสมีพื้นที่ประมาณ 25 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองอาบูดาบีเพียง 20 นาที และจากดูไบเพียง 50 นาที ด้วยตำแหน่งยุทธศาสตร์นี้ ทำให้สามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวจากหลากหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ซึ่งรวมกันแล้วมีประชากรหลายร้อยล้านคน
นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางผ่านสนามบินนานาชาติอาบูดาบีและดูไบ ซึ่งรวมกันมีผู้โดยสารรวมกันกว่า 120 ล้านคนต่อปี ดิสนีย์จึงมองเห็นศักยภาพด้านการเดินทาง การเข้าถึง และเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้อย่างชัดเจน จนกลายเป็นเหตุผลหลักในการเลือกสถานที่ตั้งโครงการ
สวนสนุกยุคใหม่ไร้ “ปราสาทเจ้าหญิง” แต่ล้ำสมัยกว่าที่เคย
แม้ดิสนีย์ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของเครื่องเล่นหรือธีมโซนทั้งหมด แต่ยืนยันแล้วว่า ดิสนีย์land Abu Dhabi จะมี ดีไซน์ที่ไม่เหมือนสวนสนุกแห่งใดในโลก โดยหนึ่งในจุดเด่นคือ การไม่มี “ปราสาทเจ้าหญิง” แบบที่เราคุ้นเคยอีกต่อไป
แทนที่จะใช้สัญลักษณ์เดิม ดิสนีย์เลือกใช้แนวคิดใหม่ที่ผสมผสาน สถาปัตยกรรมร่วมสมัยกับความงดงามของวัฒนธรรมอาหรับ โดยในภาพจำลองเบื้องต้น แสดงให้เห็นโครงสร้าง “ปราสาทคริสตัลล้ำสมัย” ที่หมุนวนตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวนสนุก ดูหรูหราและล้ำอนาคตในเวลาเดียวกัน
และยังเป็นหนึ่งในสวนสนุกแห่งแรกของดิสนีย์ที่นำเทคโนโลยี Unreal Engine ซึ่งปกติใช้ในวงการเกมและภาพยนตร์ มาใช้ในการออกแบบเครื่องเล่น เพื่อสร้างประสบการณ์ “แอนิเมชันแบบเรียลไทม์” ให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนกำลังมีชีวิตอยู่ในโลกของดิสนีย์จริง ๆ
เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถโต้ตอบกับตัวละคร ฉาก และเนื้อเรื่องในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสวนสนุกทั่วไป
รีสอร์ตดิสนีย์ “ริมทะเล” แห่งแรกของโลก
จุดขายอีกอย่างของโครงการนี้คือ มันจะกลายเป็น รีสอร์ตดิสนีย์แห่งแรกในโลกที่ตั้งอยู่ริมทะเล อย่างแท้จริง ต่างจาก “Tokyo Disney Resort” ที่แม้จะอยู่ติดมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ก็ถูกแยกจากทะเลด้วยกำแพงและพื้นที่พัฒนาอื่น ๆ
เชื่อมโยงสวนสนุกเข้ากับบรรยากาศริมทะเลของอ่าวเปอร์เซียได้อย่างกลมกลืน นำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบใหม่ที่เชื่อมต่อ “เวทมนตร์ดิสนีย์” กับธรรมชาติแบบตะวันออกกลาง
วิสัยทัศน์ของอาบูดาบีและอนาคตของการท่องเที่ยว
โครงการนี้ไม่เพียงแค่เป็นการขยายอาณาจักรของดิสนีย์ แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของอาบูดาบี ที่ต้องการสร้างจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ล้ำสมัย ยั่งยืน และตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่แสวงหาประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร
การประกาศครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงการเปลี่ยนผ่านจาก “สวนสนุกแบบดั้งเดิม” สู่ “จุดหมายปลายทางแห่งอนาคต” ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์
tags : disneyparksblog