จากลมหายใจสุดท้าย… สู่การเริ่มต้นของชีวิตใหม่
ในยุคที่ผู้คนตื่นตัวกับแนวคิด “สิ่งแวดล้อมยั่งยืน” มากขึ้น แม้แต่การจากลา… ก็ถูกออกแบบให้ไม่หลงเหลือร่องรอยของมลพิษไว้ให้โลกใบนี้
Mycelium Coffin โลงศพสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ทำจากเส้นใยเห็ดรา
หนึ่งในแนวคิดที่กำลังถูกพูดถึง ซึ่งไม่เพียงแต่ย่อยสลายได้เองภายในเวลา 45 วัน แต่ยังส่งต่อธาตุอาหารคืนสู่ดินอย่างเป็นธรรมชาติ
เบื้องหลังแนวคิดนี้ คือ ดร.จิราวรรณ คำซาว ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยาและคนรักธรรมชาติ ผู้เลือกใช้ “เห็ด” ซึ่งเป็นผู้ย่อยสลายขั้นเทพของธรรมชาติ มารังสรรค์โลงศพที่ไม่เพียง ‘ไม่ทำร้ายโลก’ แต่ยัง “ชุบชีวิตใหม่ให้สิ่งแวดล้อม”
“โลงศพที่ทำจากไมซีเลียมจะค่อย ๆ ย่อยซาก พร้อมหมุนเวียนธาตุกลับคืนสู่พืชพรรณรอบข้าง… เหมือนสัตว์เลี้ยงที่รักของเรายังได้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติต่อไป” ดร.จิราวรรณ คำซาว
ในความเชื่อดั้งเดิม หลายคนมักฝังสัตว์เลี้ยงเพื่อให้ร่างกลายเป็นปุ๋ยธรรมชาติ แต่ในความเป็นจริง ซากสัตว์ที่สลายช้าอาจเพิ่มไนโตรเจนในดินมากเกินไปจนเป็นพิษ ขณะที่การเผา ก็ปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฝุ่นพิษขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ
ทางออกที่สมดุลทั้งความรัก ความผูกพัน และความรับผิดชอบต่อโลก
ตัวโลงผลิตจากเส้นใยไมซีเลียม ผสมกับวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรอย่างซังข้าวโพด นำมาขึ้นแม่พิมพ์เป็นรูปทรงกระทัดรัด สวยงาม และสามารถย่อยสลายได้เองในธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ
และด้วยคอนเซ็ปต์ “ผู้ชุบชีวิตจากความตาย” โลงศพนี้ไม่ได้แค่รองรับการจากลา แต่ยังกลายเป็นสื่อกลางที่ส่งต่อชีวิตใหม่สู่พืชพรรณรอบตัว
ปัจจุบัน Mycelium Coffin ผลิตแบบ Made to order
- โลงศพสัตว์เลี้ยง ราคา 6,500 บาท
- กล่องเก็บกระดูก เริ่มต้นที่ 4,000 บาท
แม้จะดูราคาสูง แต่เมื่อเทียบกับต้นทุนแม่พิมพ์และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว นี่คืออีกหนึ่งทางเลือกของคนที่รักสัตว์ และใส่ใจโลก
ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ โลงศพจากเห็ดอาจกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการจากลา ไม่ใช่แค่กับสัตว์เลี้ยง แต่รวมถึงมนุษย์ด้วย เพราะบางครั้ง การจากไปอย่าง “เบาที่สุด” คือการทิ้งสิ่งดีไว้ให้โลกใบนี้เติบโตต่อไปได้อีกนาน
tags : loop