ในยุคที่มือถือกลายเป็น “อวัยวะที่ 33” โดยเฉพาะสำหรับวัยรุ่น TikTok (ติ๊กต็อก) ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “guided meditation exercise” เพื่อแก้ปัญหาการใช้งานแอปพลิเคชันจนดึกดื่น ที่กำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งกายและใจของเยาวชนอย่างมีนัยสำคัญ
TikTok ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “guided meditation exercise”
หลังเวลา 22.00 น. เป็นต้นไป ผู้ใช้งาน ติ๊กต็อก ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะเริ่มเห็น “แบบฝึกทำสมาธิ” แทรกขึ้นมาบนหน้าฟีด โดยไม่ต้องกดเปิดเอง เพราะระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาให้ขัดจังหวะการเสพคลิปสั้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตือนสติและลดพฤติกรรมการใช้งานเกินจำเป็น
ผู้ใช้สามารถกดปิดได้ แต่ถ้ายังอยู่ในแอป ฟีเจอร์นี้จะกลับมาขึ้นอีกเรื่อย ๆ จนกว่าจะเลิกใช้งานไปเอง เป็นการส่งสัญญาณว่า “ถึงเวลาให้สมองได้พัก”
ติ๊กต็อก ระบุว่า ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริม การใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างมีสุขภาวะ (Digital Wellbeing) โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่สมาธิ การนอนหลับ และความมั่นคงทางอารมณ์อาจถูกรบกวนจากการใช้งานแอปมากเกินไป
มากกว่าการฝึกสมาธิ ติ๊กต็อก ยังมีเครื่องมือช่วยจำกัดเวลาใช้งาน
ติ๊กต็อก มีระบบจำกัดเวลาการใช้งานอยู่แล้ว โดยตั้งค่าให้ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้งานได้เพียง 60 นาทีต่อวัน และยังมีตัวเลือกให้ผู้ใหญ่กำหนดเวลาใช้งานแอปของตนเองได้ด้วย
แม้ฟีเจอร์ใหม่นี้จะดูเป็นก้าวที่ดี แต่ก็สะท้อนภาพกว้างของปัญหาที่ซับซ้อนกว่านั้น
ผลสำรวจพบว่า วัยรุ่นใช้เวลาเฉลี่ย 107 นาทีต่อวัน ไปกับการดูคลิปบน ติ๊กต็อก ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงและต่อเนื่องพอจะส่งผลต่อระบบสมอง การนอนหลับ และพฤติกรรมโดยรวม นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาบางประเภทที่ส่งผลทางจิตใจอย่างมีนัยสำคัญ เช่น
- คลิปโชว์รูปร่าง ไลฟ์สไตล์
- ทริคลดน้ำหนักเร่งรัด
- คอนเทนต์เปรียบเทียบรูปลักษณ์
- เทรนด์แต่งตัวที่สร้างแรงกดดัน
ติ๊กต็อก กำลังทดลองสวมบทบาทใหม่ ไม่ใช่แค่ผู้ให้ความบันเทิง แต่ยังเป็น “ผู้ดูแลสุขภาวะดิจิทัล” ของผู้ใช้งานรุ่นเยาว์ ฟีเจอร์ “แบบฝึกสมาธิ” อาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการวางรั้วกั้นความเสี่ยงในโลกออนไลน์ ที่ในบางครั้ง แม้แต่พ่อแม่ก็เอื้อมมือเข้าไปไม่ถึง
tags : techcrunch