หลังจากที่เคยเผยโฉมเป็นรถยนต์ต้นแบบในงาน Tokyo Auto Salon 2023 ในที่สุด Honda Prelude ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6 ก็พร้อมกลับมาโลดแล่นบนท้องถนนอีกครั้งในฐานะรถโปรดักชัน โดยมีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่นเดือนกันยายน 2568 นี้ ก่อนจะตามไปลุยตลาดอเมริกาและยุโรปในปีหน้า
Honda เผยว่าเป้าหมายของการปั้น Prelude ขึ้นมาใหม่ คือการ “ปลุกความต้องการรถสปอร์ตในอุดมคติ” ที่ผสมผสานความแรงเข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
แม้จะมองผ่านๆ แล้วมีกลิ่นอายของ Civic แต่ Honda ยืนยันว่า Prelude ใหม่ เป็นมากกว่าแค่ Civic ที่ถูกดัดแปลงเป็นรถคูเป้ ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “เครื่องร่อน (glider)” ทำให้ตัวรถมีเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและเป็นเอกลักษณ์ พร้อม “ฐานล้อที่ปรับให้เหมาะสมและยางขนาดใหญ่” เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม จากภาพภายในจะเห็นว่าพื้นที่ผู้โดยสารตอนหลังค่อนข้างจำกัด และการตกแต่งแบบทูโทนก็มีให้เฉพาะเบาะคู่หน้า ซึ่งอาจเป็นการลดต้นทุนเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับรถยนต์ยุคปัจจุบัน
ขุมพลังไฮบริด แต่แฝง DNA ความแรงจาก Type R
ไฮไลท์ที่แฟนๆ จับตามองคือเรื่องของสมรรถนะ แม้จะเป็น รถยนต์ไฮบริด แต่ Prelude ใหม่ ก็พกดีกรีความแรงมาไม่ธรรมดา เพราะหยิบยืมฮาร์ดแวร์เด็ดๆ มาจากรุ่นพี่ตัวแรงอย่าง Civic Type R ไม่ว่าจะเป็น:
- ช่วงล่างหน้าแบบ Dual-Axis Strut: ช่วยให้การควบคุมแม่นยำและลดอาการ Torque Steer ขณะเร่งความเร็ว
- ระบบเบรก Brembo: มั่นใจได้ในประสิทธิภาพการหยุดรถ
ส่วนขุมพลังคาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวแบบเดียวกับ Civic e:HEV ที่มีกำลัง 200 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร แต่หลายฝ่ายคาดว่า Honda น่าจะปรับจูนให้ Prelude มีพละกำลังสูงกว่าเพื่อตำแหน่งทางการตลาดที่สปอร์ตยิ่งขึ้น
น่าเสียดายสำหรับสายเหยียบคลัตช์ เพราะ Prelude ใหม่จะ ไม่มีเกียร์ธรรมดา ให้เลือก แต่จะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติและ โหมด S+ Shift ที่มีแป้น Paddle Shift ให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ เพื่อมอบความสนุกเร้าใจในการขับขี่
ทั้งนี้ Honda วางตำแหน่งให้ Prelude ไม่ใช่รถแข่งสำหรับลงสนาม (Track-focused) แต่เป็น “Global Model” หรือรถสปอร์ตคูเป้ที่เน้นการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มอบความสนุกและประสิทธิภาพไปพร้อมกันส่วนใครที่หวังจะได้เห็นรุ่นที่แรงกว่านี้ ก็มีข่าวลือจากญี่ปุ่นว่าอาจจะมีรุ่น Type S หรือแม้กระทั่ง Type R ตามออกมาในอนาคต แต่คงต้องรอกันอีกยาวๆ
สำหรับแฟนๆ ชาวไทยคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า Honda ประเทศไทย จะนำรถสปอร์ตคูเป้ในตำนานคันนี้กลับเข้ามาทำตลาดในบ้านเราด้วยหรือไม่