หัวข้อข่าว

บริษัทแม่ BYD ทุบราคารถ EV อีกหลายรุ่น BYD Seagull เหลือแค่ 254,xxx บาท

BYD Seagull

BYD ลดราคาแรง! เริ่ม มิ.ย. นี้ BYD Seagull เหลือไม่ถึง 2.6 แสนบาท พร้อมรุ่นฮิตอีกเพียบ

BYD เปิดเกมบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง ด้วยการ ลดราคารถ EV ครั้งใหญ่ นำทัพโดย BYD Seagull ที่เหลือเพียง 55,800 หยวน หรือราว 254,xxx บาท พร้อมรุ่นยอดนิยมอีกกว่า 22 รุ่น ที่จะเริ่มลดราคาตั้งแต่ เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป สะท้อนความดุเดือดของการแข่งขันในตลาด EV จีน

3 รอบภายใน 2 เดือน BYD เดินหน้าอัดโปรไม่หยุด

นี่ถือเป็นการลดราคารอบที่ 3 ในเวลาเพียง 2 เดือนของ BYD เพื่อเร่งยอดขายในประเทศให้ทันเป้า โดยแม้จะมียอดขายรวมในช่วง ม.ค.-เม.ย. 2025 ถึง 1.38 ล้านคัน แต่หากต้องการแตะเป้า 5.5 ล้านคันต่อปี ก็ต้องขายให้ได้วันละกว่า 15,000 คัน

โปรเด็ด BYD ลดราคารถยนต์ไฟฟ้า รุ่นยอดนิยม

โปรเด็ด BYD ลดราคารถยนต์ไฟฟ้า รุ่นยอดนิยม

  • BYD Seagull: 55,800 หยวน (ประมาณ 254,517 บาท)
  • BYD Seal: เริ่มที่ 89,800 หยวน (ประมาณ 408,309 บาท)
  • Dolphin: เริ่มที่ 99,800 หยวน (ประมาณ 453,778 บาท)
  • Seal 07 DM-i (1.5L 125km): ลดสูงสุด 53,000 หยวน (ประมาณ 241,792 บาท)
  • Qin PLUS / Qin L DM-i: เริ่มต้นที่ 63,800–79,800 หยวน (ประมาณ 291,063–364,052 บาท)
ขนาดรูปเรื่อง web 0

                                                                           BYD Seal 07 DM-i

หุ้น BYD ร่วงหลังประกาศลดราคา กระทบความเชื่อมั่นระยะสั้น

หลังประกาศลดราคา ราคาหุ้น BYD ดิ่งลงทั้งในฮ่องกง (–8.6%) และในตลาด A-share (–6%) ภายในเวลา 3 วัน มูลค่าบริษัทหายไปราว 1 แสนล้านหยวน สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่อผลกำไรในช่วงสั้น

  • Geely – AITO – Xiaomi ไม่ยอมแพ้ ร่วมวงสงครามราคา
  • Geely Galaxy ตอบโต้ด้วยการลดราคาสูงสุด 20,000 หยวน (ราว 91,199 บาท) พร้อมโปรแลกรถเก่าและแรงหนุนจากรัฐ ด้าน Xiaomi และ AITO ก็เร่งขยายตลาด EV ระดับกลางถึงสูง ชิงส่วนแบ่งจากแบรนด์ใหญ่
ขนาดรูปเรื่อง web 1 59

                                                                 BYD Seagull รุ่นฮิตที่ถูกที่สุดในตลาด

อุตสาหกรรม EV จีนเผชิญความเสี่ยงสะสม

รายงานจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ระบุว่า กำไรเฉลี่ยของอุตสาหกรรมรถยนต์ในจีนอยู่ที่ 3.9% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 4.3% ของภาคอุตสาหกรรม ขณะที่แม้ BYD จะมีกำไรเฉลี่ยต่อคันสูงที่สุด (8,733 หยวน) แต่กำลังผลิต 6 ล้านคันต่อปีก็อาจกลายเป็นภาระ หากยอดขายไม่ถึงเป้า

  • เสียงเตือน “ฟ้าผ่า” คล้ายวิกฤต Evergrande
  • เว่ยเจี้ยนจวิน จาก GWM เปรียบเทียบว่า หากการแข่งขันยังดุเดือดแบบนี้ อาจซ้ำรอยกับ “เอเวอร์แกรนด์” ในภาคอสังหาฯ โดย BYD เผชิญความเสี่ยง 4 ด้าน ได้แก่

กำไรหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง

  • เทคโนโลยี EV ไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
  • ตลาดต่างประเทศยังไม่มั่นคง
  • ภาวะตัดราคาในประเทศรุนแรงเกินควบคุม
  • BYD มุ่งขยายตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าโต 117% ทั้งปี

แม้ตลาดในประเทศจะกดดันหนัก BYD ยังมีความหวังจากตลาดโลก โดยไตรมาสแรกของปี 2025 มียอดส่งออกถึง 214,000 คัน โตขึ้น 117% พร้อมตั้งเป้าแตะ 800,000 คันทั้งปี บุกทั้ง ยุโรป และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเปิดโรงงานใหม่ในไทย

อย่างไรก็ตาม การเติบโตในต่างประเทศยังต้องฝ่าด่านจาก ภาษีนำเข้า และ กฎระเบียบที่เข้มงวด รวมถึง การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ ในแต่ละประเทศ

สรุปราคาล่าสุด BYD เดือนมิถุนายน 2025

  • Seagull: 55,800 หยวน (254,517 บาท)
  • Sea Lion 05 DM-i: 72,800 หยวน (332,219 บาท)
  • Dolphin: 77,800 หยวน (355,036 บาท)
  • Song PLUS DM-i: 99,800 หยวน (455,211 บาท)
  • Seal 07 DM: 102,800 หยวน (468,895 บาท)
    *อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 29 พ.ค. 2025: 1 หยวน = 4.562 บาท

บทสรุป: สงคราม EV ยังไม่จบ

การลดราคาของ BYD ครั้งนี้อาจสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในตลาดรถ EV ทั่วโลก หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าราคาเข้าถึงง่าย ช่วงกลางปี 2025 นี้ อาจเป็น “จังหวะทอง” ที่ไม่ควรพลาด

Facebook

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *