จีนเร่งเครื่องพลังงานสะอาด หวังครองโลกด้านเทคโนโลยีสีเขียว ขณะทรัมป์ดันสหรัฐฯ ถอยหลังกลับไปใช้ฟอสซิล
ในขณะที่หลายประเทศกำลังเดินหน้าสู่อนาคตพลังงานสะอาด สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลับเลือกเส้นทางตรงกันข้าม ด้วยการผลักดันนโยบายพลังงานฟอสซิลอย่างจริงจัง สวนทางกับ จีน ที่เดินหน้าเต็มกำลังในการครองความเป็นผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนของโลก
China (จีน) เร่งสปีดโครงการพลังงานหมุนเวียนใหญ่ที่สุดในโลก
เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากการประกาศนโยบายชุดใหม่ จีนเปิดแผนลงทุนมโหฬารในพลังงานหมุนเวียน ตั้งแต่ ฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง ไปจนถึง เขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดมหึมา ที่มีศักยภาพมากกว่าเขื่อนสามผาซึ่งปัจจุบันถือเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึง 3 เท่า จีนยังตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ถึงจุดสูงสุดภายในปี 2030 และไปสู่เป้าหมาย Net Zero หรือการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2060
พลังงานลม-แสงอาทิตย์จีน แซงทุกชาติ
หากนับเฉพาะด้านพลังงานแสงอาทิตย์ จีนกลายเป็นผู้นำโลกมาตั้งแต่ปี 2017 และล่าสุดในปี 2023 ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพิ่มอีก 200 กิกะวัตต์ ส่วนพลังงานลมก็เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยฟาร์มลมของจีนมีกำลังผลิตรวมถึง 450 กิกะวัตต์ มากกว่าสองเท่าของยุโรป และเทียบเท่ากับการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมดของประเทศอินเดีย
จีนไม่ได้หยุดเพียงการผลิตพลังงานเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ควบคุม ห่วงโซ่อุปทานสำคัญ สำหรับเทคโนโลยีสีเขียว เช่น แร่ธาตุหายากที่จำเป็นในการผลิต แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และ แผงโซลาร์เซลล์ จึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงนักที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายฟันธงว่า “จีนกำลังจะครองโลกด้านพลังงานสะอาดในทุกมิติ”
สหรัฐฯ ถอยหลังท่ามกลางการแข่งขัน
ในทางกลับกัน การขึ้นดำรงตำแหน่งของทรัมป์ในปี 2025 ทำให้สหรัฐฯ ต้องหยุดชะงักจากทิศทางพลังงานสะอาดที่เคยเติบโตมาก่อนหน้าอย่างรวดเร็ว แม้ในปี 2024 สหรัฐฯ เคยเป็นประเทศที่มีการติดตั้งพลังงานหมุนเวียนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่การกลับไปพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลทำให้อนาคตของสหรัฐฯ ในสนามพลังงานสะอาดดูมืดมนลง
แม้จีนจะก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด แต่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2060 ก็ยังเป็นงานหิน เพราะอัตราการลดการปล่อยคาร์บอนต่อ GDP ของจีนในปัจจุบันอยู่ที่เพียง 3.4% ต่อปี ต่ำกว่าความคาดหวัง อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่า โรงไฟฟ้าถ่านหิน จะถูกกลับมาขยายกำลังผลิตในปี 2025 เพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานของเศรษฐกิจที่ยังเติบโตต่อเนื่อง
จีนอาจยังไม่ถึงเส้นชัย แต่ทิศทางที่ชัดเจนและการลงทุนที่จริงจังทำให้โลกเริ่มเห็นภาพว่า “อนาคตพลังงานสะอาด” อาจไม่ได้ขับเคลื่อนจากตะวันตกอีกต่อไป
tags : reuters, SpringNew