ในโลกที่ผู้บริโภคเริ่มตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แบรนด์ระดับโลกอย่าง IKEA ก็ก้าวเข้าสู่ปี 2568 ด้วยแผนความยั่งยืนที่ชัดเจนและจริงจังมากขึ้น โดยประกาศใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) สำหรับการขนส่งในกรุงเทพฯ เริ่มเดือนพฤษภาคมนี้ พร้อมผลักดันเมนูโปรตีนจากพืชให้ครองครึ่งหนึ่งของเมนูหลักในร้านอาหารทุกสาขา หวังลดคาร์บอนในทุกจุดสัมผัสระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
IKEA ประเทศไทย จับมือกับ Mober เริ่มให้บริการจัดส่งสินค้าด้วยรถ EV จำนวน 21 คันในกรุงเทพฯ
ภายในพฤษภาคม 2568 และจะเพิ่มอีก 9 คันภายในสิ้นปี คิดเป็น 40% ของรถขนส่งทั้งหมดภายในปี 2025 โดยวางแผนเพิ่มรถ 5–10 คันต่อปีไปจนถึงปี 2573 เพื่อให้ได้สัดส่วนการจัดส่งด้วยรถ EV ถึง 70%
เป้าหมายของโครงการนี้คือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงสุดถึง 87% ต่อกิโลเมตร หรือราว 950 เมตริกตันต่อปี เทียบเท่ากับการขับรถจากภูเก็ตไปเชียงใหม่กว่า 6,000 เที่ยว นับเป็นการเปลี่ยนผ่านที่สะท้อนแนวคิด “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” อย่างเป็นรูปธรรม
เมนูโปรตีนพืชครึ่งต่อครึ่ง ชู Plant Balls เป็นไฮไลต์
อีกด้านหนึ่ง อิเกีย ยังเดินหน้าปรับเปลี่ยนเมนูอาหารในร้านอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันกว่า 50% ของเมนูหลักในร้านอาหาร อิเกีย ทั่วไทยเป็นอาหารจากพืช เช่น แพลนต์บอล (Plant Balls) พร้อมคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นแซลมอนที่ผ่านการรับรองจาก ASC หรือกาแฟ-ช็อกโกแลตจาก Rainforest Alliance และ UTZ เพื่อสร้างประสบการณ์การกินที่ดีต่อสุขภาพและดีต่อโลกไปพร้อมกัน
พลังงานสะอาดในสโตร์ โตต่อเนื่อง
นอกจากเรื่องการขนส่งและอาหาร อิเกีย ยังลงทุนพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดขยายระบบโซลาร์รูฟท็อปที่ อิเกีย บางนา ด้วยงบกว่า 25 ล้านบาท ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 2,890 เมกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ลดการปล่อยคาร์บอนเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ถึง 19,000 ต้นต่อปี ส่งผลให้สัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในสโตร์เพิ่มจาก 15% เป็น 35% และจะขยายต่อในอนาคต
อิเกีย ยังให้ความสำคัญกับผู้คนและสังคมในทุกระดับ ตั้งแต่พนักงานจนถึงชุมชน โดยสนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น การเปิดโอกาสให้พนักงานใช้สิทธิ “Social Day” หยุดงาน 1 วันเพื่อทำกิจกรรมเพื่อสังคมโดยยังได้รับค่าจ้าง
อีกทั้งยังจับมือกับองค์กรและมูลนิธิต่าง ๆ เช่น มูลนิธิกระจกเงา โรงเรียนมีชัยพัฒนา รวมถึงโครงการฝึกงานและบริจาคเพื่อช่วยเหลือชุมชนที่ขาดแคลน เป็นการสร้าง “ผลลัพธ์เชิงบวก” ให้กับโลกในทุกมิติ
อิเกีย กับความยั่งยืนไม่ใช่แค่เป้าหมาย แต่คือวิธีคิด ภายใต้หลักการ “Democratic Design” ซึ่งเน้นการออกแบบสินค้าทั้งในแง่ของความสวยงาม การใช้งาน คุณภาพ ราคา และความยั่งยืนไปพร้อมกัน อิเกีย ยืนยันว่าทุกการตัดสินใจทางธุรกิจในวันนี้ คือการวางรากฐานสำหรับวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
จากสินค้า พลังงาน อาหาร ไปจนถึงการขนส่งและคนในองค์กร อิเกีย พิสูจน์แล้วว่า “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือหนทางสู่อนาคตที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้
tags : prachachat