หัวข้อข่าว

อิฐรีไซเคิลแห่งอนาคต ลดคาร์บอนสูงถึง 95%

K-BRIQ

ในวันที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก อุตสาหกรรมก่อสร้างก็เป็นหนึ่งในต้นตอของปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีสีเขียวก็เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด บริษัท Kenoteq จากสกอตแลนด์ ได้เปิดตัวนวัตกรรมก้อนอิฐที่อาจเปลี่ยนอนาคตการก่อสร้างไปตลอดกาล  “K-BRIQ” อิฐที่ผลิตจากขยะรีไซเคิล และสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 95% เมื่อเทียบกับอิฐดินเผาแบบดั้งเดิม

พลิกวิธีคิดจาก “ขยะ” เป็น “ทรัพยากร”

อิฐรีไซเคิล ถูกพัฒนาโดยใช้วัสดุเหลือทิ้งจากการก่อสร้าง รื้อถอน และขุดเจาะ ซึ่งในสหราชอาณาจักรนั้น คิดเป็นขยะมากถึง 50–60 ล้านตันต่อปี หรือเกือบ สองในสามของขยะทั้งหมดในประเทศ โดยทางบริษัทสามารถแปรรูปวัสดุเหล่านี้เป็นก้อนอิฐพร้อมใช้งานได้ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง  ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดย ไม่ต้องใช้การเผา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ปล่อยคาร์บอนสูงในระบบการผลิตอิฐแบบเก่า

K Briq3

ประสิทธิภาพไม่ต่าง แต่ผลกระทบดีขึ้นมหาศาล

แม้จะผลิตจากขยะ แต่ อิฐรีไซเคิล กลับมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับอิฐก่อสร้างทั่วไปทั้งในแง่ของความแข็งแรงและความทนทาน ยิ่งไปกว่านั้น มันยังช่วยลด “Embodied Carbon” หรือคาร์บอนที่แฝงอยู่ในวัสดุก่อสร้างได้อย่างมีนัยสำคัญ  ซึ่งคาร์บอนส่วนนี้คิดเป็นมากกว่า 50% ของคาร์บอนที่ปล่อยออกมาตลอดอายุของอาคาร

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด คือ หากใช้ อิฐรีไซเคิล แทนอิฐทั่วไปในการสร้างบ้านสองห้องนอนในสหราชอาณาจักร ซึ่งโดยเฉลี่ยต้องใช้อิฐราว 12,000 ก้อน จะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนจาก 5.46 ตัน เหลือเพียง 0.2 ตัน หรือเทียบเท่ากับการนำรถยนต์ใช้น้ำมันออกจากถนน นาน 1 ปีเต็ม

K Briq4

Kenoteq ตั้งเป้าผลิตอิฐรีไซเคิล ให้ได้มากถึง 2 ล้านก้อนต่อปี ในระยะสั้น และมีแผนจะขยายกำลังการผลิตเป็น 4 ล้านก้อนต่อปี เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต ปัจจุบันตัวผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองแล้วทั้งในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการอนุมัติในสหภาพยุโรป

แม้จะดูเป็นเพียงก้อนอิฐธรรมดา แต่ อิฐรีไซเคิล คือสัญลักษณ์ของแนวคิด “วัสดุก่อสร้างยุคใหม่” ที่ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ด้านเทคนิค แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง

หากแนวทางนี้ได้รับการสนับสนุนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมก่อสร้างในอนาคตอาจไม่ต้องเลือกระหว่าง “ความแข็งแรง” กับ “ความยั่งยืน” อีกต่อไป

tags : dezeen, TNN

Facebook

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *