เปิดตัว Toyota Land Cruiser FJ ถอด DNA ตำนานสายลุย 2 สไตล์

หลังจากปล่อยให้แฟนๆ คาดเดาและติดตามข่าวลือกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุด Toyota เปิดตัว All-New Land Cruiser FJ ใหม่อย่างเป็นทางการ ก่อนมีกำหนดเปิดตัวในบางภูมิภาคช่วงกลางปี 2026

Toyota Land Cruiser FJ ใหม่นี้ ได้รับการออกแบบโดยถอด DNA ความบึกบึนมาจากรุ่นพี่ในตระกูล Land Cruiser แต่ถูกนำมาย่อส่วนให้อยู่ในรูปแบบที่กะทัดรัดและดูขี้เล่นมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือดีไซน์ที่ยังคงเอกลักษณ์ของ Land Cruiser ไว้อย่างชัดเจน แต่มาในขนาดที่น่ารักและดูคล่องตัวกว่าเดิม

จุดเด่นที่น่าสนใจของ Toyota Land Cruiser FJ

เลือกหน้าตาได้ 2 สไตล์

สิ่งแรกที่ต้องบอกว่าโดดเด่นที่สุดและถูกพูดถึงเยอะคือดีไซน์ด้านหน้าที่ Toyota นำเสนอถึง 2 รูปแบบ ซึ่งสะท้อนดีไซน์ของ Land Cruiser รุ่นพี่

หน้าตาแบบเรโทร: ได้แรงบันดาลใจจากความคลาสสิก มาพร้อมไฟหน้าทรงกลม
หน้าตาแบบทันสมัย: ใช้ไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยม พร้อมไฟ DRL (Daytime Running Lights) รูปตัว C
ทั้งสองแบบจะมาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์มินิมอลที่มีตัวอักษร “TOYOTA” คาดกลาง และกันชนหน้าที่ทำจากพลาสติกซึ่งมีดีไซน์แตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละแบบ

ดีไซน์บึกบึนและฟังก์ชันที่คิดมาเพื่อสายลุย

ด้านข้างของ Toyota Land Cruiser FJ โดดเด่นด้วยซุ้มล้อทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ และกาบข้างที่ดูแข็งแกร่ง พร้อมแนวหลังคาที่ออกแบบมาเพื่อคารวะรุ่นพี่ในตระกูล จุดสังเกตคือเสา C-Pillar ด้านหลังที่มีขนาดใหญ่มาก

ด้านท้ายมีการติดตั้งยางอะไหล่ไว้บนประตูท้าย ซึ่งอาจจะบดบังทัศนวิสัยด้านหลังอยู่บ้าง แต่ก็ช่วยเสริมลุคให้ดูเป็นรถออฟโรดเต็มขั้น มาพร้อมไฟท้ายรูปตัว C และกันชนหลังที่ดูสมบุกสมบัน

ความพิเศษอยู่ที่ Toyota ระบุว่า กันชนบริเวณมุมกันชนหน้าและหลังสามารถถอดเปลี่ยนได้! นี่คือแนวคิดที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้เจ้าของสามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายได้ง่ายและประหยัดค่าซ่อมแซม

นอกจากนี้ Toyota ยังสัญญาว่าจะมีชุดแต่ง “robust exterior” (ภายนอกที่แข็งแกร่ง) ให้เลือกมากมาย เช่น บันไดข้าง, ท่อสน็อกเกิล (raised air intakes) และแร็คหลังคาจาก ARB

มิติตัวถัง: เล็กกว่าที่คิด แต่พร้อมลุย

Land Cruiser FJ ใหม่ มีมิติตัวถังดังนี้

ความยาว: 4,575 มม.
ความกว้าง: 1,855 มม.
ความสูง: 1,960 มม.
ระยะฐานล้อ: 2,580 มม.

เพื่อให้เห็นภาพ เมื่อเทียบกับ Toyota Corolla Cross รถรุ่นนี้ยาวกว่าเล็กน้อย (ประมาณ 114 มม.) แต่กลับมีระยะฐานล้อที่สั้นกว่า (สั้นกว่า 58 มม.) และหากเทียบกับ Land Cruiser (J250) รุ่นพี่ มันสั้นกว่าถึง 348 มม. และมีฐานล้อสั้นกว่า 269 มม. ซึ่งมิติที่กะทัดรัดนี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ออฟโรด

ภายในที่คุ้นเคย เน้นใช้งานจริง

ห้องโดยสารยกดีไซน์หลายส่วนมาจาก Land Cruiser รุ่นพี่ ผู้ขับขี่จะได้พบกับพวงมาลัยทรงหนา, แผงหน้าปัดแบบดิจิทัล, และระบบอินโฟเทนเมนต์จอกว้าง พร้อมแผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบปุ่มกดแยกส่วน

และเน้นวัสดุพลาสติกที่ทนทาน คันเกียร์มีดีไซน์เด่นชัด พร้อมสวิตช์ควบคุมระบบออฟโรดต่างๆ เบาะแถวที่สองอาจจะไม่ได้กว้างขวางนัก แต่ก็เพียงพอต่อการโดยสาร และที่สำคัญ รถรุ่นนี้จะมาพร้อมกับชุดระบบช่วยเหลือการขับขี่ Toyota Safety Sense

5. ขุมพลังและแชสซีส์: พื้นฐานแกร่งจาก IMV

ด้านขุมพลังของ Land Cruiser FJ คือเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส 2TR-FE ขนาด 2.7 ลิตร

กำลังสูงสุด: 161 แรงม้า (163 PS)
แรงบิดสูงสุด: 246 นิวตันเมตร
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (6 Super ECT)
ระบบขับเคลื่อน: ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-time
เครื่องยนต์นี้บ่งบอกว่าพื้นฐานของ FJ นั้นมาจากแพลตฟอร์ม “IMV series” (ที่ใช้ใน Hilux และ Fortuner) แต่ Toyota ระบุว่าได้ “ปรับปรุงใหม่” โดยมีการเสริมความแข็งแรงของตัวถังเพื่อให้มีการควบคุมที่ยอดเยี่ยม

Toyota ยืนยันว่ารถรุ่นนี้จะมี “สมรรถนะออฟโรดที่โดดเด่นคู่ควรกับชื่อ Land Cruiser” โดยทีมวิศวกรได้เน้นการพัฒนามุมไต่, ระยะห่างจากพื้น (Ground Clearance) และการให้ตัวของล้อ (Wheel Articulation) ผ่านการทดสอบออฟโรดอย่างหนักเพื่อให้มั่นใจว่า FJ ใหม่นี้ คือ “Land Cruiser” ตัวจริง

สำหรับตลาดในอเมริกาเหนือ Toyota ได้ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีแผนนำรถรุ่นนี้ไปจำหน่าย ส่วนแฟนๆ ในประเทศไทยคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าจะมีโอกาสได้สัมผัสตัวจริงของสายลุยไซส์เล็กคันนี้เมื่อไหร่ต้องติดตามกันต่อไป