หัวข้อข่าว

ยาหยอดตา “นาโนคิวโบโซม” รุ่นใหม่ เล็งรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมได้โดยไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา

nanocubosome

ยาหยอดตาเทคโนโลยี “นาโนคิวโบโซม” nanocubosome อาจเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อม โดยไม่ต้องพึ่งการฉีดยา นักวิทยาศาสตร์พัฒนายาหยอดตาสูตรใหม่ ที่สามารถนำสารปกป้องดวงตาไปถึง “จอตา” ได้โดยตรง เปิดทางสู่การรักษาโรคตาบอดจากจอประสาทตาเสื่อมแบบไม่ต้องฉีดยา

ทีมนักวิจัยจาก Royal Melbourne Institute of Technology (RMIT) ร่วมกับ Centre for Eye Research Australia (CERA) ได้สร้างสูตรยาหยอดตาโดยใช้เทคโนโลยี นาโนแคเรียร์ (nano-carrier) เพื่อส่งผ่านสารลูทีน (lutein) — เม็ดสีในจอตาที่พบมากในผักใบเขียวและไข่ — ไปยังบริเวณด้านหลังของดวงตา ซึ่งโดยปกติสามารถเข้าถึงได้เฉพาะด้วยการฉีดยาเท่านั้น

ขนาดรูปเรื่อง web 10.1.1

การทดลองในหนูพบว่า สูตรยานี้สามารถส่งสารไปถึงเนื้อเยื่อจอตาได้จริง และยังคงคงสภาพได้ดีที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้มีศักยภาพเป็นการรักษาเชิงป้องกันที่ง่ายกว่าและอาจช่วยลดความจำเป็นในการฉีดยา

ทีมวิจัยได้พัฒนาเทคโนโลยีสิทธิบัตรใหม่ที่เรียกว่า “คิวโบโซม (cubosome)” — กล่องนาโนขนาดเล็กที่ทำจากไขมัน ใช้ปกป้องสารสำคัญจากการเสื่อมสลาย — และบรรจุลูทีนที่สกัดจากผล ฟักข้าว (Gac fruit) ซึ่งเป็นผลไม้สีแดงส้มพื้นถิ่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสารแคโรทีนอยด์สูง เช่น ไลโคปีน เบต้าแคโรทีน ลูทีน และซีแซนทีน

ในห้องทดลอง ยาหยอดตานี้ช่วยปกป้องเซลล์จอตาจากความเครียดที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียการมองเห็น และที่สำคัญคือสามารถส่งสารไปถึง “เรตินา” เป้าหมายหลักได้จริงในสัตว์ทดลอง

แม้การพัฒนาอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่นักวิจัยได้แก้ปัญหาหลักของการรักษาประเภทนี้ได้แล้ว นั่นคือการส่งโมเลกุลที่เปราะบางให้ผ่านกระจกตาไปยังส่วนหลังของดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยพิมพ์เขียวของระบบส่งยานี้ ยังอาจเปิดโอกาสให้ใช้ขนส่งยาอื่น ๆ ไปยังจอตาในอนาคตได้ด้วย

ขนาดรูปเรื่อง web 10.1.2

เป้าหมายหลักของยาหยอดตา “nanocubosome” รุ่นใหม่

เป้าหมายหลักของทีมคือการรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อม โดยเฉพาะ Age-related Macular Degeneration (AMD) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการตาบอดในผู้สูงอายุ ยาหยอดตานี้ยังไม่ได้ถูกทดสอบกับแบบจำลองของโรคโดยตรง แต่เป็นขั้นตอนต่อไปในกระบวนการทดสอบก่อนคลินิก

แม้นักวิจัยระบุว่ายาหยอดตานี้อาจยังไม่สามารถแทนที่การฉีดยาได้ทั้งหมดได้แบบ 100% แต่หากประสบความสำเร็จ ก็อาจช่วยชะลอหรือป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยต้องเข้าสู่การรักษาที่รุกรานมากกว่าในโรค AMD และโรคเสื่อมของจอตาประเภทอื่น ๆ ได้ในอนาคต

Facebook

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *