ในขณะที่โลกกำลังผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นทางเลือกหลักสำหรับการเดินทาง แต่ในความเป็นจริง รถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงยังครองถนนอยู่เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่ในปี 2022 รถไฟฟ้ามีสัดส่วนเพียง 8% เท่านั้น
เหตุผลสำคัญคือรถไฟฟ้ายังมีราคาสูงและจุดชาร์จไฟยังไม่เพียงพอ ดังนั้นสตาร์ตอัปจากนิวยอร์กที่ชื่อว่า Aircela จึงพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่อาจเป็นคำตอบให้กับทั้งโลกที่ยังใช้น้ำมัน ด้วยการสร้าง เครื่องผลิตน้ำมันจากอากาศ ที่ใช้เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนโดยตรง
เปลี่ยนคาร์บอนจากอากาศให้กลายเป็นน้ำมัน
เครื่องจักรนี้มีขนาดประมาณตู้เย็น ด้านหลังติดตั้งหัวจ่ายน้ำมัน และภายในถูกออกแบบให้ทำงานแบบระบบปิด โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Direct Air Capture (DAC) หรือการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยตรงจากอากาศ
เมื่อก๊าซ CO₂ ถูกดักจับได้แล้ว เครื่องจะนำคาร์บอนนี้ไปทำปฏิกิริยากับน้ำ และพลังงานหมุนเวียน (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์) เพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน ซึ่งสามารถเติมในรถยนต์ทั่วไปได้โดยไม่ต้องแปลงเครื่องยนต์
น้ำมันที่ได้ไม่มีซัลเฟอร์ ไม่มีเอทานอล และไม่มีโลหะหนัก ถือเป็นน้ำมันสะอาดที่ไม่เพียงแต่ใช้ซ้ำได้ แต่ยังช่วยลดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศอีกด้วย
ผลิตได้น้อย แต่เปลี่ยนอนาคตได้มาก
เครื่องต้นแบบสามารถดักจับ CO₂ ได้ประมาณ 10 กิโลกรัมต่อวัน และผลิตน้ำมันได้ประมาณ 3.78 ลิตรต่อวัน โดยภายในยังมีถังเก็บน้ำมันจุได้สูงสุด 64 ลิตร
แม้ปริมาณที่ผลิตได้จะยังไม่มากพอสำหรับการใช้งานระดับอุตสาหกรรม แต่จุดประสงค์ของ สตาร์ตอัป ไม่ใช่เพียงการผลิตน้ำมันเพื่อขาย แต่เป็นการพิสูจน์ว่า การผลิตน้ำมันอย่างยั่งยืนและคาร์บอนเป็นกลางนั้น “ทำได้จริง”
ในโลกที่ยังต้องพึ่งพารถยนต์น้ำมันอีกนาน นวัตกรรมที่ช่วยดึงคาร์บอนกลับมาใช้ใหม่อาจเป็นก้าวสำคัญในการลดรอยเท้าคาร์บอน (carbon footprint) ของมนุษย์ และสร้างเส้นทางใหม่ให้การใช้พลังงานฟอสซิลนั้น “สะอาดขึ้น”
แม้จะเป็นเพียงเครื่องต้นแบบในวันนี้ แต่นี่อาจเป็นภาพจำลองของสถานีเติมน้ำมันแห่งอนาคต ที่แทนที่จะขุดขึ้นจากใต้ดิน แต่กลับสร้างขึ้นจากอากาศที่เราหายใจ หากคุณอยากรู้ว่าวันหนึ่งคุณจะเติมน้ำมันที่ผลิตจากคาร์บอนในอากาศได้จริงไหม อนาคตอาจใกล้กว่าที่คิด
tags : carbonherald
