โลจิสติกส์โลกกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ เมื่อบริษัทเทคโนโลยีอวกาศสัญชาติอเมริกัน Inversion เปิดตัวยานอวกาศรุ่นใหม่ “Arc (อาร์ก)” อย่างเป็นทางการในลอสแอนเจลิส ยานลำนี้ถูกออกแบบให้เป็น “ระบบขนส่งเร่งด่วนจากอวกาศ” ที่สามารถส่งสินค้า เสบียง หรือเวชภัณฑ์ไปยังจุดหมายทั่วโลกได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
ก้าวใหม่ของโลจิสติกส์จากอวกาศ
Justin Fiaschetti ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Inversion กล่าวว่า “สิ่งที่เราสร้างขึ้นไม่ใช่แค่ยานอวกาศ แต่คือระบบที่สามารถส่งมอบสิ่งจำเป็นในช่วงเวลาที่โลกต้องการจริงๆ”
Inversion ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดย Fiaschetti และ Austin Briggs อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยบอสตัน ที่เชื่อว่ามูลค่าที่แท้จริงของอวกาศอยู่ที่ “การส่งสิ่งของจริงกลับมายังโลก” ไม่ใช่แค่ข้อมูล ยาน อาร์ก ถูกพัฒนาเพื่อให้กองทัพสหรัฐฯ ใช้ส่งเสบียงน้ำหนักสูงสุด 225 กิโลกรัม ไปยังพื้นที่ใดก็ได้ทั่วโลกแบบฉุกเฉิน โดยมีแผนจะให้ยานเหล่านี้ประจำการอยู่ในวงโคจรล่วงหน้าได้นานถึง 5 ปี และพร้อมลงจอดอัตโนมัติเมื่อได้รับคำสั่ง
Introducing Arc – the world’s first space-based delivery vehicle.
— Inversion (@InversionSpace) October 2, 2025
Arc enables the on-demand delivery of cargo and effects to anywhere on Earth in under an hour, and offers unparalleled hypersonic testing capabilities.
Arc reshapes defense readiness by enabling access to… pic.twitter.com/zdbwiVbjDa
สินค้าที่สามารถจัดส่งได้มีตั้งแต่ เวชภัณฑ์, อุปกรณ์ทางเทคนิค ไปจนถึงโดรน — สิ่งที่กองทัพเรียกว่า “Mission-enabling cargo” หรือสินค้าที่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ของภารกิจได้ในทันที
วิศวกรรมอัจฉริยะเพื่อการลงจอดแม่นยำ
ยาน อาร์ก มีขนาดราวโต๊ะขนาดใหญ่ สูงประมาณ 8 ฟุต และกว้าง 4 ฟุต ถูกออกแบบให้เป็น “lifting body spacecraft” ซึ่งสามารถบังคับทิศทางขณะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้อย่างแม่นยำ โดยมีระยะการเคลื่อนตัวด้านข้าง (cross-range) กว่า 1,000 กิโลเมตร
การลงจอดของ อาร์ก ใช้ ร่มชูชีพแทนรันเวย์ ทำให้สามารถปฏิบัติการในพื้นที่จำกัดได้ และด้วยการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่เป็นพิษ ทหารหรือเจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงยานได้ทันทีหลังลงจอดโดยไม่ต้องสวมชุดป้องกัน
มากกว่าการขนส่ง สู่แพลตฟอร์มทดสอบความเร็วเหนือเสียง
Inversion ยังมองเห็นศักยภาพของ อาร์ก ในฐานะ แพลตฟอร์มทดสอบเทคโนโลยี Hypersonic ที่สามารถบินด้วยความเร็วกว่า Mach 20 และทนต่อแรง G ระดับสูงได้เป็นเวลานาน ยานนี้จะช่วยให้การทดสอบเทคโนโลยีความเร็วสูงมีความ รวดเร็ว ทำซ้ำได้ และต้นทุนต่ำกว่าการทดสอบรูปแบบเดิม
ก่อนหน้านี้ Inversion ได้พัฒนายานต้นแบบชื่อ Ray ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 90 กิโลกรัม และถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรในการภารกิจ Transporter-12 ของ SpaceX เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ยาน Ray ช่วยพิสูจน์แนวคิดและระบบควบคุมวงโคจรของบริษัทได้สำเร็จ จนกลายเป็นรากฐานสำหรับการพัฒนา อาร์ก ในปัจจุบัน
ปัจจุบัน Inversion มีพนักงานกว่า 60 คน และได้สร้างโครงสร้างหลักของยาน Arc ลำแรกเสร็จสมบูรณ์ พร้อมร่วมมือกับ NASA ในการพัฒนาระบบป้องกันความร้อนขณะกลับสู่ชั้นบรรยากาศ
ตั้งเป้าปล่อยยานลำแรกปลายปี 2026
Fiaschetti ยืนยันว่า Inversion อยู่บนเส้นทางที่ดีและมั่นใจว่าจะสามารถปล่อยยาน อาร์ก ลำแรกขึ้นสู่วงโคจรภายในสิ้นปี 2026
การมาของ อาร์ก ไม่เพียงเป็นการพลิกโฉมวงการโลจิสติกส์ทางทหาร แต่ยังอาจเปลี่ยนภาพรวมของ “การขนส่งข้ามโลก” ไปตลอดกาล จากเดิมที่ใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ สู่ยุคใหม่ที่การส่งของจากอีกซีกโลกหนึ่งใช้เวลาเพียง ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
tags :spacevoyaging