จีน ประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายากหลายรายการ รวมถึง Scandium และ Dysprosium ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในการผลิตชิป สมาร์ทโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง มาตรการนี้ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้สหรัฐฯ ที่ยังคงเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราสูง
China กับการตัดสินใจครั้งนี้อาจมีผลกระทบในวงกว้าง
โดยเฉพาะต่อบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Qualcomm, Broadcom, Samsung, TSMC และ Western Digital ที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบเหล่านี้ในการผลิตชิปและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง
แม้จีนจะยังไม่ถึงขั้น “แบน” การส่งออกทั้งหมด แต่มาตรการใหม่นี้กำหนดให้บริษัทต่างประเทศต้องขอใบอนุญาตก่อนส่งออก ซึ่งอาจทำให้ขั้นตอนซับซ้อนและล่าช้า กระทบต่อกำหนดการผลิตโดยตรง
ทำไมแร่หายากถึงสำคัญ?
แร่หายากกว่า 17 ชนิด เช่น Dysprosium, Scandium, Samarium และ Neodymium มีบทบาทสำคัญในการผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษ เช่น การนำแม่เหล็กแรงสูง เซ็นเซอร์ หัวอ่านฮาร์ดดิสก์ ไปจนถึงอาวุธและอุปกรณ์ทางทหาร
จีนถือเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกแร่หายากอันดับหนึ่งของโลก ครองสัดส่วนการผลิตมากกว่า 60% ของตลาดโลก ดังนั้น เมื่อจีน “บีบ” แหล่งวัตถุดิบ โลกทั้งใบก็ “สะเทือน”
ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนอะไร?
นี่ไม่ใช่แค่การจำกัดการค้า แต่เป็นการแสดงพลังผ่านห่วงโซ่อุปทานระดับโลก จีนกำลังใช้ทรัพยากรที่ “ไม่มีใครแทนที่ได้ง่ายๆ” เป็นเครื่องต่อรองเชิงกลยุทธ์ ในสมรภูมิความขัดแย้งระหว่างสองมหาอำนาจ
แม้อุตสาหกรรมจะพยายามกระจายความเสี่ยงและมองหาแหล่งแร่ทางเลือกจากประเทศอื่น แต่ในระยะสั้น การเปลี่ยนซัพพลายเชนย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจดันต้นทุนการผลิตให้สูงขึ้นทั่วโลก
หากมาตรการนี้ยืดเยื้อ โลกอาจได้เห็นการจัดระเบียบห่วงโซ่อุปทานครั้งใหม่ ที่เปลี่ยนอนาคตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไปอีกขั้น
tags : reuters