Garmin เปิดตัว Fenix 8 Pro สมาร์ทวอทช์รุ่นเรือธงในตระกูลที่ขึ้นชื่อเรื่องความ สมบุกสมบัน และเหมาะสำหรับสายลุย โดยครั้งนี้มาพร้อมฟีเจอร์ InReach ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง เครือข่ายโทรศัพท์ LTE และ สัญญาณดาวเทียม เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถติดต่อสื่อสารและขอความช่วยเหลือได้แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีสัญญาณมือถือ
เด่นด้วยหน้าจอ MicroLED สว่างที่สุดในโลก
Fenix 8Pro ใช้ หน้าจอ MicroLED รุ่นใหม่ ที่ให้ความสว่างสูงสุด 4,500 nits ซึ่ง Garmin ยืนยันว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ มีความสว่างมากที่สุดในโลก ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้อยู่กลางแสงแดดจัด เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ปีนเขา ปั่นจักรยาน หรือเดินป่า
การเชื่อมต่อและความปลอดภัยขั้นสูง
- การเชื่อมต่อ LTE ใช้สำหรับส่งข้อมูลเท่านั้น (ไม่รองรับการโทรหรือ SMS)
- ผู้ใช้สามารถส่ง ข้อความเสียงยาวสูงสุด 30 วินาที ผ่านแอป Garmin Messenger
- แชร์ตำแหน่งเส้นทาง ตรวจสอบสภาพอากาศ และข้อมูลอื่น ๆ แบบเรียลไทม์
- ฟีเจอร์ SOS ฉุกเฉิน ทำงานได้ทั้ง LTE และดาวเทียม โดยจะติดต่อไปยัง Garmin Response Center เพื่อรับมือสถานการณ์เร่งด่วน
ค่าบริการสำหรับการเชื่อมต่อ LTE และดาวเทียม เดือนละ 7.99 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อม ทดลองใช้ฟรี 30 วันแรก
Fenix 8 Pro มี 2 ขนาดหน้าจอ 47 มม. และ 51 มม. แบตเตอรีใช้งานได้นานสูงสุด 27 วัน สำหรับรุ่นจอ AMOLED และ 10 วัน สำหรับรุ่นจอ MicroLED ราคารุ่น AMOLED เริ่มต้น 1,199.99 ดอลลาร์ ส่วนรุ่น MicroLED เริ่มต้น 1,999.99 ดอลลาร์ เริ่มขายตั้งแต่ 8 กันยายน เป็นต้นไป
สมาร์ทวอทช์ที่ออกแบบมาเพื่อสายผจญภัยตัวจริง
Fenix 8Pro ถือเป็นก้าวสำคัญของ Garmin ที่นำเทคโนโลยีการเชื่อมต่อมารวมเข้ากับสมาร์ทวอทช์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจให้ผู้ใช้งานในทุกสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งหรือท่องเที่ยวในพื้นที่ทุรกันดาร ทำให้ Fenix 8 Pro ไม่ใช่แค่สมาร์ทวอทช์ แต่เป็น ผู้ช่วยชีวิต ในยามฉุกเฉินอย่างแท้จริง
tags : techcrunch