กองทัพเรือสหรัฐฯ ผ่านห้องวิจัย U.S. Naval Research Laboratory (NRL) กำลังทดสอบต้นแบบระบบจ่ายไฟพกพา (Hydrogen Small Unit Power) ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงานหลัก หวังแทนที่การใช้เครื่องปั่นไฟและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ในการปฏิบัติภารกิจของนาวิกโยธินและหน่วยรบพิเศษในอนาคต
ปัญหาเดิมของกองทัพ
ปัจจุบัน ทหารภาคสนามต้องพกพาเครื่องมือจำนวนมากที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เช่น วิทยุสื่อสาร โดรน และอุปกรณ์สนับสนุนภารกิจ ทำให้จำเป็นต้องมีแหล่งพลังงานเสริม แต่เครื่องปั่นไฟมีเสียงดังเสี่ยงต่อการถูกฝ่ายตรงข้ามตรวจจับ ขณะที่แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนแม้จะเงียบ แต่มีน้ำหนักมากและเคลื่อนย้ายลำบาก
H-SUP เป็นพลังงานสะอาดเพื่อสนามรบ
ต้นแบบ “พลังงานไฮโดรเจน” ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ เซลล์เชื้อเพลิง กล่องเก็บไฮโดรเจน และอินเวอร์เตอร์ โดยสามารถจ่ายกำลังไฟสูงสุด 1.2 กิโลวัตต์ เพียงพอสำหรับชาร์จอุปกรณ์สำคัญในหน่วย และรองรับการใช้งานต่อเนื่องได้มากถึง 5,000 ชั่วโมง
เดิมทีระบบนี้ถูกพัฒนาเพื่อขยายระยะการบินของโดรน แต่ต่อยอดมาเป็นแหล่งพลังงานสำหรับทหารที่ต้องปฏิบัติภารกิจลับ ซึ่งต้องการความเงียบและการพรางตัวสูง
จุดแข็งของไฮโดรเจน
เมื่อเทียบกับเครื่องปั่นไฟและแบตเตอรี่ มีข้อได้เปรียบหลายด้าน ได้แก่
- ลดเสียงและความร้อน ทำให้พรางตัวได้ดีกว่า
- ทนทานในสนามรบ เพราะแทบไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวที่สึกหรอ
- ลดภาระการบำรุงรักษา และง่ายต่อการขนย้าย
ผลทดสอบภาคสนามตั้งแต่ปี 2022 ถึงต้นปี 2025 NRL ได้ทดสอบ “พลังงานไฮโดรเจน” อย่างน้อย 7 ครั้ง ทั้งกับหน่วยนาวิกโยธินและกองทัพบกสหรัฐฯ โดยผลลัพธ์เบื้องต้นถือว่าน่าพอใจ และจะถูกนำไปปรับปรุงเพื่อใช้งานจริงในอนาคต
หากโครงการนี้สำเร็จ ไฮโดรเจนไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนเกมพลังงานในภาคพลเรือน แต่ยังอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่เพิ่มศักยภาพของกองทัพสหรัฐฯ ในสนามรบยุคใหม่ด้วย
tags : newatlas
