Intel เตรียมพลิกเกมตลาดซีพียูอีกครั้งด้วย “Nova Lake” เจเนอเรชันใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมเทคโนโลยีแคช L3 ขนาดใหญ่ที่สุดถึง 180MB เพื่อเจาะตลาดเกมเมอร์และงานประสิทธิภาพสูง แข่งตรงกับซีรีส์ Ryzen X3D ที่ AMD ครองตลาดมายาวนาน
Nova-Lake จะเปิดตัวภายใต้ตระกูล Core Ultra 400 โดยมีจุดเด่นคือเทคโนโลยี bLLC (big Last Level Cache) ช่วยลด latency และเพิ่มสมรรถนะโดยเฉพาะในงานเล่นเกม ซึ่งทำให้ Core Ultra 9 มีแคชสูงสุด 180MB และ Core Ultra 7 ที่ 144MB ทิ้งห่าง Ryzen 9800X3D ที่เคยทำไว้สูงสุด 128MB
คอร์เยอะ แรงจัด เตรียมเปิดตัวต้นปีหน้า
รุ่นแรกของ Nova-Lake จะมาพร้อม 24 คอร์ (P-Core + E-Core) และเพิ่มอีก 4 คอร์แบบ LP-E Core สำหรับงานเบา ในขณะที่รุ่นไฮเอนด์แบบสองไดล์ เตรียมเปิดตัวไตรมาสถัดไปด้วยจำนวนคอร์สูงสุด 48 คอร์ (16P + 32E) แต่จะไม่มี bLLC เพราะข้อจำกัดพื้นที่บนชิป
แม้จะมีคอร์มากกว่า แต่การไม่มีแคชขนาดใหญ่ อาจทำให้ยังสู้ Ryzen X3D ไม่ได้ในงานที่เน้นการเข้าถึงข้อมูลเร็ว เช่น เกมกราฟิกหนักหรือแอปพลิเคชันที่ใช้แคชแบบเข้มข้น
ดีไซน์ใหม่ ใช้ซ็อกเก็ต LGA 1954 แรงขึ้นทุกด้าน
Nova-Lake-S ซึ่งเป็นเวอร์ชันสำหรับเดสก์ท็อป จะเปลี่ยนมาใช้ ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 1954 ต่างจาก Arrow Lake-S ที่ยังใช้ LGA 1851 โดย Intel คาดการณ์ว่า Nova-Lake-S จะมีประสิทธิภาพแบบ Single-thread สูงขึ้นกว่า 10% และ Multi-thread แรงขึ้นกว่า 60% เทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า Intel จะใช้เทคนิค 3D Stacking แบบเดียวกับ AMD หรือไม่ แม้จะมีเทคโนโลยีรองรับอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าถูกนำมาใช้ใน Nova Lake ด้วยหรือเปล่า
Nova Lake คือเดิมพันใหญ่ของ Intel
การมาของ Nova-Lake อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหม่ของ Intel ในศึกกับ AMD โดยเฉพาะกลุ่มเกมเมอร์ระดับไฮเอนด์ที่เน้นแคชใหญ่และประสิทธิภาพสูง การเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ทั้งซ็อกเก็ต ขนาดแคช และโครงสร้างซีพียู อาจทำให้ Intel กลับมาทวงบัลลังก์ได้อีกครั้งในปี 2026
ราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่ารุ่น Core Ultra 9 และ Ultra 7 อาจเปิดราคาสูงถึง 20,000 – 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับตลาดและกลุ่มเป้าหมาย
tags : wccftech