มีรายงานว่า iPhone (ไอโฟน) อาจมีราคาพุ่งสูงขึ้นกว่า 43% ในสหรัฐฯ หากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าแบบ “Reciprocal Tariff” ของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกบังคับใช้จริงตามที่ประกาศไว้เมื่อไม่กี่วันก่อน
iPhone ราคาอาจขึ้นถึง 8 หมื่น!
เว็บไซต์ MacRumors อ้างอิงข้อมูลจาก Rosenblatt Securities ที่วิเคราะห์ว่า ไอโฟน 16 Pro Max รุ่น 1TB อาจพุ่งจาก 1,599 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 55,300 บาท) เป็น 2,300 ดอลลาร์ (ราว 79,600 บาท) หากมาตรการภาษีดังกล่าวถูกนำมาใช้เต็มรูปแบบ
ไม่ใช่แค่ไอโฟนแต่สินค้า Apple อื่น ๆ ก็จ่อโดนด้วย
ไม่ใช่แค่รุ่นเรือธงเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบ — รุ่นราคาประหยัดอย่าง ไอโฟน 16e ก็อาจขยับจาก ประมาณ 20,700 บาท เป็น 29,400 บาท และนักวิเคราะห์ยังชี้ว่าอุปกรณ์อื่นของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPad, Mac หรือแม้แต่ AirPods ก็อาจแพงขึ้นกว่า 30% เช่นกัน
เนื่องจาก Apple พึ่งพาการผลิตในจีนและเวียดนามเป็นหลัก — ทั้งสองประเทศต่างก็เจอมาตรการภาษีใหม่เข้าไปก่อนหน้านี้ ที่อัตรา 54% และ 46% ตามลำดับ ซึ่งเป็นชนวนสำคัญให้ราคาสินค้า Apple ส่อแววปรับตัวขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้น
หุ้นของ Apple ก็ไม่รอดเช่นกัน โดย ร่วงไปแล้วกว่า 15% ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา หลังข่าวการขึ้นภาษีถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการ
ถึงตอนนี้ Apple ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นอย่างเป็นทางการต่อท่าทีของทรัมป์ และยังไม่มีคำยืนยันว่าจะมีการปรับราคาจริงหรือไม่ใน ไอโฟน 16 และ 17 ที่มีแผนเปิดตัวช่วงปลายปีนี้
ถ้านโยบายนี้เดินหน้าเต็มที่ ไอโฟน อาจกลายเป็น “ของหรู” ยิ่งกว่าที่เคย
tags : reuters