Apple อาจปรับโฉมระบบระบายความร้อนใน iPhone เป็นครั้งแรก ด้วยเทคโนโลยี Vapor Chamber ที่เคยถูกใช้ในสมาร์ตโฟนฝั่ง Android มาแล้วหลายปี
แม้ iPhone จะขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพ แต่หนึ่งในข้อสังเกตที่ผู้ใช้วิจารณ์มาโดยตลอด คือ “เครื่องร้อนง่าย และประสิทธิภาพตกเมื่อใช้งานหนัก” โดยเฉพาะเมื่อตัวชิปประมวลผลทำงานจนถึงขีดสุด ระบบจะเริ่มลดความเร็ว (Throttling) เพื่อลดความร้อน ซึ่งส่งผลให้เครื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ล่าสุดมีรายงานจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า Apple อาจเตรียมติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber (VC) ให้กับ iPhone 17 Pro เป็นครั้งแรก แทนที่ระบบกราไฟต์แบบเดิมที่ใช้มายาวนาน
Vapor Chamber คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?
Vapor Chamber คือเทคโนโลยีที่ใช้ของเหลวภายในแผ่นโลหะบาง ๆ ทำหน้าที่ดูดซับความร้อน เมื่อชิปหรืออุปกรณ์เริ่มร้อน ของเหลวจะระเหยเป็นไอและกระจายทั่วพื้นผิวห้องไอ (Chamber) เพื่อถ่ายเทความร้อน จากนั้นจะควบแน่นกลับเป็นของเหลวอีกครั้ง ช่วยระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่จำกัด
เทคโนโลยีนี้ถูกใช้ในสมาร์ตโฟน Android ระดับเรือธงมาหลายปี ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Xiaomi หรือ ASUS แต่ Apple ยังไม่เคยนำมาใช้ใน iPhone มาก่อน
สาเหตุหลักอาจมาจากชิปประมวลผลรุ่นใหม่ A19 Pro ที่คาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 17 Pro ซึ่งคาดว่าจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและผลิตความร้อนมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น Apple จำเป็นต้องหาทางควบคุมอุณหภูมิอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความแรงโดยไม่ต้องลดสปีด
ถ้านี่เป็นเรื่องจริง จะเกิดอะไรขึ้น?
- iPhone อาจ “เย็นลง” อย่างเห็นได้ชัดในระหว่างใช้งานหนัก เช่น เล่นเกมกราฟิกสูง ถ่ายวิดีโอ 4K หรือทำงานตัดต่อ
- ปัญหา Throttling อาจลดลง ผู้ใช้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานขึ้นโดยไม่สะดุด
- อาจเป็นก้าวสำคัญของ Apple ในการตอบโจทย์ด้านความร้อนที่เคยเป็นจุดอ่อน
แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Apple แต่หากรายงานนี้เป็นจริง การมาของ Vapor Chamber อาจถือเป็น “หนึ่งในจุดขายใหม่” ที่พลิกภาพลักษณ์ของ iPhone ด้านการระบายความร้อนได้อย่างน่าสนใจ
tags : macrumors