กองทัพเรือไทยประกาศว่าระบบโดรนปีกตรึงรุ่น MARCUS-B ที่พัฒนาร่วมกับภาคเอกชนได้เข้าสู่สถานะ Initial Operating Capability (IOC) พร้อมประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน จักรีนฤเบศร (HTMS Chakri Naruebet — CVH-911) หลังผ่านการทดสอบความสามารถต่างๆ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2022 และทดสอบสำเร็จในปี 2024 ตามรายงานของสำนักข่าวด้านงานทหาร Naval News ของฝรั่งเศส
MARCUS-B เป็นโดรนปีกตรึงที่มีฟังก์ชัน ขึ้น-ลงจอดแนวดิ่ง (VTOL)
ทำให้สามารถปฏิบัติจากพื้นที่จำกัดบนเรือได้สะดวก เหมาะสำหรับงานลาดตระเวน/ตรวจการณ์และการสนับสนุนข้อมูลข่าวกรองในพื้นที่ทางทะเล โดยโครงการนี้ดำเนินการภายใต้การนำของ สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพเรือ (NRDO) ร่วมกับผู้ประกอบการไทยหลายราย อาทิ Oceanus Research and Development, X-Treme Composites และ BJSupply 2017
การประกาศ IOC หมายความว่า MARCUS B ผ่านมาตรฐานขั้นต้นสำหรับนำไปใช้งานจริงแล้ว ขณะนี้กองทัพเรือได้รับโดรนชุดแรกและเริ่มใช้งานเชิงปฏิบัติการได้ แต่การผลิตเชิงพาณิชย์ในปริมาณมาก (mass production) ยังขึ้นกับการจัดสรรงบประมาณในขั้นต่อไป
ในแนวทางยกระดับสมรรถนะของเรือจักรีนฤเบศร กองทัพเรือยังได้ลงนามโครงการปรับปรุงระบบบริหารจัดการแพลตฟอร์มแบบบูรณาการกับผู้รับเหมาระหว่างประเทศ ได้แก่ Thales และ Universal Communication Systems โครงการนี้มีระยะเวลาคาดการณ์ราว 15 เดือน เพื่ออัปเกรดเรือที่ประจำการมามากกว่า 28 ปีให้ทันสมัยและรองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นโดรนและระบบข่าวสารสมัยใหม่
การนำโดรนในลักษณะนี้ขึ้นปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบินถือเป็นสัญญาณว่ากองทัพเรือไทยมุ่งขยายขีดความสามารถด้านการลาดตระเวนทางทะเลและ ISR (intelligence, surveillance, reconnaissance) ด้วยเทคโนโลยีระบบไม่คนขับ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่ครอบคลุมและความต่อเนื่องของการเฝ้าระวัง โดยไม่เพิ่มภาระบุคลากรบนเรือมากนัก
ทั้งนี้ รายละเอียดด้านความสามารถเชิงเทคนิคและการใช้งานเฉพาะภารกิจของ MARCUS B รวมถึงแผนจัดหาเพิ่มเติม จะรอการประกาศจากกองทัพเรืออีกครั้งเมื่องบประมาณและแผนปฏิบัติการถูกอนุมัติอย่างเป็นทางการ
tags : navalnews
