ประเทศไทยสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการบรรพชีวินวิทยาอีกครั้ง เมื่อทีมนักวิจัยไทยค้นพบ “เทอโรซอร์” (Pterosaur) สัตว์เลื้อยคลานบินได้ร่วมยุคไดโนเสาร์ชนิดใหม่ของโลก ณ แหล่งซากดึกดำบรรพ์พระปรง จังหวัดสระแก้ว ซากที่พบคือส่วนปลายของขากรรไกรบน พร้อมฟันอีก 5 ซี่ จากหินเสาขัวที่มีอายุกว่า 130 ล้านปี ซึ่งถือเป็น ซากกระโหลกของเทอโรซอร์ชิ้นแรกที่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Pterosaur ชนิดใหม่นี้มีชื่อว่า การูแดปเทอรัส บุฟโตติ (Garudapterus buffetauti)
โดยชื่อ “Garudapterus” ได้แรงบันดาลใจจาก “ครุฑ” สัตว์กึ่งเทพในตำนาน ส่วน “buffetauti” ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.เอริก บุฟโต นักบรรพชีวินวิทยาชาวฝรั่งเศสผู้มีบทบาทสำคัญในการศึกษาซากดึกดำบรรพ์ในไทย
ฟอสซิลใหม่นี้ถูกจัดอยู่ในวงศ์ Gnathosaurinae กลุ่มเดียวกับ Pterodactyloidea ซึ่งมีลักษณะปากกว้างคล้ายนกปากช้อน ฟันแหลมเรียวยื่นออกมา เหมาะสำหรับจับปลา มีช่วงปีกกว้างประมาณ 2.5 เมตร จุดเด่นของเทอโรซอร์คือโครงสร้างกระดูกบางเบา มีถุงลมลดน้ำหนัก และแผ่นปีกที่ขึงจากนิ้วถึงลำตัววิวัฒนาการของการบินก่อนนกจะถือกำเนิด
ดร.ศิตะ มานิตกุล นักวิจัยผู้ค้นพบ ระบุว่า “โครงสร้างที่เปราะบางของเทอโรซอร์ ทำให้โอกาสกลายเป็นฟอสซิลมีน้อยมาก การได้พบขากรรไกรที่สมบูรณ์เช่นนี้จึงมีคุณค่ามหาศาลต่อการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตในยุคครีเทเชียส”
แหล่งซากดึกดำบรรพ์พระปรงเป็นพื้นที่สำคัญที่เริ่มมีการขุดค้นอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2545 และเคยพบซากไดโนเสาร์ เต่า จระเข้ และปลา การค้นพบครั้งนี้ตอกย้ำว่า ภาคตะวันออกของไทย มีศักยภาพด้านการวิจัยบรรพชีวินไม่แพ้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การค้นพบนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Cretaceous Research เมื่อเดือนมีนาคม 2568 และมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน โดยมีนักวิชาการและผู้แทนกรมทรัพยากรธรณีร่วมเป็นสักขีพยาน
ฟอสซิล “การูแดปเทอรัส บุฟโตติ” ไม่เพียงเผยให้เห็นความหลากหลายทางชีวภาพในยุคดึกดำบรรพ์ของไทย แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ต่อการกระจายตัวของเทอโรซอร์ในระดับโลก พร้อมสะท้อนถึงคุณค่าในการอนุรักษ์แหล่งซากดึกดำบรรพ์—สมบัติธรรมชาติที่รอการถอดรหัสอีกมากมายจากใต้ผืนแผ่นดินไทย
tags : DMRTH