ทีมนักวิศวกรจาก University of California–Santa Cruz เปิดตัว Pulse-Fi เทคโนโลยีที่ใช้สัญญาณ Wi-Fi ในบ้านหรือสถานพยาบาลเพื่อตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจแบบไม่สัมผัส ผลการทดสอบเบื้องต้นระบุว่าวัดได้แม่นยำระดับคลินิก—คลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.5 ครั้งต่อนาที—และใช้เวลาวัดเพียง 5 วินาทีเท่านั้น
หลักการทำงานของ Pulse-Fi มีดังนี้
อาศัยการจับความผันแปรเล็ก ๆ ในคลื่น Wi-Fi ที่เกิดจากการบีบตัวของหัวใจ เมื่อสัญญาณสะท้อนหรือผ่านร่างกาย จะมี “ริปเปิ้ล” เล็ก ๆ ปรากฏขึ้นในข้อมูล ทีมงานใช้ตัวรับสัญญาณความไวสูงร่วมกับโมเดล Machine Learning ที่ฝึกจากอาสาสมัครกว่า 100 คน เพื่อกรองสัญญาณรบกวนจากการเคลื่อนไหวหรือแหล่งรบกวนอื่นๆ และสกัดให้เหลือเฉพาะรูปแบบที่มาจากการเต้นของหัวใจ
ข้อดีที่ชัดเจนคือความเรียบง่ายและต้นทุนต่ำ: ระบบทำงานได้บนฮาร์ดแวร์ราคาถูกอย่าง Raspberry Pi หรือตัวโมดูล Wi-Fi เช่น ESP32 ทำให้มีโอกาสนำไปใช้ได้ในบ้าน คลินิกขนาดเล็ก หรือพื้นที่ห่างไกล โดยไม่ต้องติดตั้งเซ็นเซอร์บนร่างกายผู้ป่วย ซึ่งสะดวกสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ไม่สะดวกสวมอุปกรณ์
ทีมวิจัยยังระบุว่า Pulse Fi สามารถทำงานได้แม้ผู้ถูกวัดจะนั่ง ยืน หรือนอน และยังคงความแม่นยำในระยะห่างจากอุปกรณ์ถึง 3 เมตร ขณะนี้งานวิจัยกำลังต่อยอดให้ระบบสามารถวัดอัตราการหายใจและตรวจจับภาวะอย่างโรคหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) ได้ในอนาคต
การนำเสนอผลงานเกิดขึ้นในการประชุม 2025 International Conference on Distributed Computing in Smart Systems and the Internet of Things ที่ประเทศอิตาลี นักวิจัยมองว่า Pulse Fi อาจกลายเป็นระบบเซ็นเซอร์สุขภาพพาสซีฟที่ฝังอยู่ในเครือข่าย Wi-Fi ของบ้านและสถานพยาบาล ช่วยเฝ้าระวังสุขภาพโดยไม่รบกวนชีวิตประจำวัน แต่ยังต้องมีการทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงเพิ่มเติมและการพิจารณาประเด็นความเป็นส่วนตัวก่อนใช้งานวงกว้าง
Pulse Fi แสดงให้เห็นศักยภาพใหม่ของเทคโนโลยีที่เราคุ้นเคย—เมื่อผสานกับ AI และการประมวลผลสัญญาณขั้นสูง เราเตอร์ Wi-Fi อาจกลายเป็นเครื่องมือตรวจสุขภาพหัวใจที่เข้าถึงได้ง่ายและราคาไม่แพงในอนาคตอันใกล้
tags : news.ucsc.edu