วงการเทคโนโลยีโลกกำลังร้อนระอุ เมื่อ Ant Group บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน เจ้าของแพลตฟอร์มชำระเงินดิจิทัลชื่อดัง Alipay เปิดตัวหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นแรกของบริษัทในชื่อ “R1” ภายในงาน IFA 2025 กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ท่ามกลางความสนใจจากผู้ชมและสื่อมวลชนทั่วโลก โดยหลายฝ่ายมองว่า R-1 ถูกวางตัวให้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ “Optimus” หุ่นยนต์อัจฉริยะจาก Tesla ภายใต้การนำของ อีลอน มัสก์
ดีไซน์และความสามารถของ R1
R 1 มาในดีไซน์ลักษณะ Humanoid Robot มีแขน ขา และศีรษะที่เคลื่อนไหวได้คล้ายมนุษย์ ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ภายในงานเปิดตัว R 1 ได้สาธิตการปรุงเมนูอาหารทะเล เช่น กุ้ง พร้อมเสิร์ฟให้ผู้ชม แม้การเคลื่อนไหวยังค่อนข้างช้า แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนศักยภาพและวิสัยทัศน์ของ Ant Group
เบื้องหลังการพัฒนา R 1 คือ Shanghai Ant Lingbo Technology Co. บริษัทในเครือของ Ant Group ซึ่งเผยว่า R1 ถูกออกแบบให้เป็นหุ่นยนต์อเนกประสงค์ สามารถปรับใช้ได้หลายบทบาท เช่น
ผู้ช่วยในครัว
หุ่นยนต์ดูแลสุขภาพ
หุ่นยนต์เพื่อความบันเทิงหรือเป็นเพื่อนคู่หู
ไกด์ท่องเที่ยวในอุตสาหกรรมการบริการ
ซึ่งสะท้อนแนวโน้มการผลักดันหุ่นยนต์เข้าสู่ “ชีวิตจริง” ไม่ใช่เพียงแค่ต้นแบบในห้องทดลอง
Tesla กับโครงการ Optimus
อีกด้านหนึ่ง Tesla บริษัทที่มีชื่อเสียงจากรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด เปิดตัวโครงการ Optimus มาตั้งแต่ปี 2021 โดยหุ่นยนต์ Optimus มีความสูงราว 173 ซม. สามารถยกของหนักได้ถึง 20 กก. และใช้เทคโนโลยี AI เดียวกับระบบขับขี่อัตโนมัติของ Tesla เป้าหมายหลักคือการเป็นหุ่นยนต์อเนกประสงค์ที่ใช้งานได้ทั้งในโรงงานและในบ้าน ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมในตลาดหุ่นยนต์โลก
การแข่งขันในสมรภูมิ AI Robotics
แม้ทั้ง R 1 และ Optimus จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่การที่ Ant Group ก้าวเข้าสู่ตลาดนี้ถือเป็นสัญญาณสำคัญว่า จีนพร้อมท้าชนสหรัฐฯ ในสมรภูมิ AI Robotics การแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้จำกัดเพียงเรื่องเทคโนโลยีหุ่นยนต์เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับอนาคตของหลายอุตสาหกรรม เช่น การผลิต สุขภาพ และบริการลูกค้า
อนาคตของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จึงเป็นมากกว่านวัตกรรม แต่เป็นการแข่งขันเพื่อแย่งชิงความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของโลกอย่างแท้จริง
tags : techeblog