ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โลกอาจได้เห็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมพลังงานลมครั้งใหญ่ เมื่อ Radia บริษัทสัญชาติอเมริกัน เตรียมเปิดตัว WindRunner เครื่องบินขนส่งลำใหญ่ที่สุดในโลก ที่ถูกออกแบบมาเพื่อภารกิจเฉพาะทางอย่าง “การขนส่งใบพัดกังหันลมขนาดยักษ์” ไปยังพื้นที่ห่างไกล
WindRunner มีความยาวถึง 356 ฟุต สูงกว่า 79 ฟุต ซึ่งทำให้มัน “ยาวกว่า Boeing 747-400F ถึง 239%” และ ใหญ่กว่ากองทัพเครื่องบินบรรทุกทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึง 80 เท่า
Radia เปิดตัว WindRunner เพื่อภารกิจการเคลื่อนย้าย ใบพัดกังหันลม
ภารกิจหลักของ WindRunner คือการเคลื่อนย้าย ใบพัดกังหันลมขนาด 341 ฟุต ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่สามารถขนส่งด้วยวิธีการปกติบนท้องถนนได้อีกต่อไป เพราะต้องเจออุปสรรคทั้งสะพานต่ำ ถนนแคบ และทางโค้งที่ไม่สามารถเลี้ยวได้
ในโลกของพลังงานลม “ขนาดมีความหมาย” กังหันลมที่มีใบพัดยาวสามารถผลิตพลังงานได้มากขึ้นแม้ในพื้นที่ที่ลมพัดไม่แรง และมีความเสถียรมากกว่า เหมาะกับการทำหน้าที่เป็น “ภาระฐานงาน” (Base Load) ให้กับระบบพลังงานหมุนเวียนในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ใบพัดขนาดใหญ่ไม่สามารถแยกชิ้นส่วนเพื่อขนส่งได้ง่ายนัก เพราะเสี่ยงต่อความเสียหายและต้องใช้ส่วนประกอบมากขึ้น จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ของอุตสาหกรรม
การขนส่งพลังงานสะอาด WindRunner คือคำตอบ
ด้วยการใช้เครื่องบินยักษ์ขนส่งใบพัดไปยังจุดติดตั้งโดยตรง ลดความยุ่งยากจากระบบถนน และช่วยขยายฟาร์มกังหันลมไปยังพื้นที่ห่างไกลที่ไม่สามารถเข้าถึงได้มาก่อน
มาร์ก ลุนด์สตรอม CEO ของบริษัทกล่าวอย่างชัดเจนว่า โครงการนี้จะช่วย “ขยายขอบเขตและขนาดของอุตสาหกรรมพลังงานลมทั่วโลก” พร้อมเสริมว่าใบพัดขนาดใหญ่จะผลิตพลังงานได้ “สม่ำเสมอมากขึ้น” ซึ่งเหมาะกับแนวทางการจัดการพลังงานในอนาคต
ปัจจุบัน WindRunner อยู่ระหว่างการทดสอบอุโมงค์ลมและจำลองการบินอย่างละเอียด คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายใน ปลายปี 2027
หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เครื่องบินลำนี้อาจไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ของวิศวกรรมระดับโลก แต่ยังเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่าง พลังงานสะอาด และ พื้นที่ห่างไกล ทั่วโลก
tags : windrunner