วงการขนส่งสินค้าในสหรัฐฯ กำลังจะเปลี่ยนโฉมอีกครั้ง เมื่อ Robomart เปิดตัวหุ่นยนต์ขนส่งอัตโนมัติรุ่นล่าสุด Robomart RM5 ที่มาพร้อมแนวคิดการให้บริการส่งของแบบ On-demand ที่คุ้มค่าและทำได้จริง
ถูกออกแบบมาให้เป็นรถขนส่งไร้คนขับระดับ 4 ขนาดใกล้เคียงกับรถ Shuttle Bus รองรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 500 ปอนด์ (ราว 225 กก.) พร้อมตู้เก็บของ 10 ช่องที่ควบคุมอุณหภูมิได้ แยกคำสั่งซื้อหลายออเดอร์ในรอบเดียว
จุดเด่นของ RM5
คือสามารถวิ่งได้ 112 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำความเร็วสูงสุด 25 ไมล์ต่อชั่วโมง และรองรับการส่งหลายจุด (Multiple Deliveries) ในการออกทริปเดียว ช่วยลดปัญหาคอขวดทั้งด้านแรงงานและเวลาได้อย่างมาก
ในแง่ธุรกิจ Robomart วางโมเดลการใช้งานผ่านแอป ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าจากร้านที่เข้าร่วมได้ โดยคิดค่าบริการ Flat rate $3 ต่อออเดอร์ ไม่มีค่าธรรมเนียมหรือทิปเพิ่มเติม ต่างจากแพลตฟอร์มทั่วไป อีกทั้งยังระบุว่าสามารถลดต้นทุนด้าน Fulfillment ได้มากถึง 70% เมื่อเทียบกับการใช้แรงงานคน
ความหมายต่อธุรกิจค้าปลีกและโลจิสติกส์
- หากประสบความสำเร็จ โมเดล RM-5 อาจกลายเป็น Game Changer ของธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหาร ด้วยต้นทุนที่ถูกลงและการส่งที่รวดเร็วขึ้น
- เป็นตัวอย่างชัดเจนของการนำ AI และหุ่นยนต์ มาประยุกต์ใช้ในบริการ On-demand delivery ที่ยั่งยืนกว่าระบบมนุษย์ขับ
- อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่ ทั้งในเรื่องต้นทุนการพัฒนา ระบบ AI และการยอมรับจากผู้บริโภค
Robomart เตรียมเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ใน Austin และ Texas ภายในปีนี้ และอยู่ระหว่างเจรจาความร่วมมือกับแบรนด์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Unilever, Mars และ Yamaha Motors
หากโมเดลนี้สามารถขยายผลได้จริง RM-5 อาจกลายเป็นต้นแบบของ “Autonomous Instacart ที่ทำกำไรได้” และเป็นอีกหนึ่งสัญญาณสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจโลจิสติกส์ทั่วโลก
คำถามคือ… ประเทศไทยพร้อมแค่ไหนที่จะนำโมเดลหุ่นยนต์ขนส่งเช่นนี้มาใช้จริงในอนาคต?
tags : Robomart