รัฐบาลสหราชอาณาจักรร่วมกับ Rolls-Royce เดินหน้าพัฒนาโรงไฟฟ้าจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบแยกส่วนขนาดเล็ก (SMR) แห่งแรกของประเทศ ที่ไซต์เดิมเมืองวิลฟา (Wylfa) ทางตอนเหนือของเวลส์ โครงการมูลค่าราว 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถูกวางตำแหน่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เสริมความมั่นคงด้านพลังงานและลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
ภาพรวมโครงการ Small Modular Reactor: SMR
ใช้เครื่องปฏิกรณ์ Rolls-Royce SM R จำนวน 3 หน่วย หน่วยละ 470 เมกะวัตต์ (MW) รวมกำลังการผลิตราว 1.5 กิกะวัตต์ (GW) — เทียบได้กับกังหันลมหลายร้อยเครื่อง
GBE-N (Great British Energy-Nuclear) ระบุว่าโครงการสามารถขยายได้ถึง 8 หน่วย ในอนาคต (เกือบ 4 GW)
ประเมินว่าจะจ่ายพลังงานได้เพียงพอสำหรับ ครัวเรือนประมาณ 3 ล้านหลัง ในพื้นที่ตอนเหนือของเวลส์และรอบข้าง
คาดเริ่มงานก่อสร้าง/เดินเครื่องในพื้นที่ปี 2026 และตั้งเป้าส่งไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ (grid) ภายในช่วง กลางปี 2030
ข้อดีและผลกระทบท้องถิ่น
โครงการ Small Modular Reactor ที่ Wylfa ถูกมองว่าเป็นทางลัดให้การติดตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าแบบดั้งเดิม ด้วยขนาดโมดูลาร์ที่ผลิตชิ้นส่วนจากโรงงานได้มากขึ้น ทั้งยังส่งผลสร้างงานก่อสร้างและการดำเนินงานกว่า 3,000 ตำแหน่ง ในพื้นที่ ซึ่งสำคัญต่อชุมชนที่เคยมีประสบการณ์ด้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (Wylfa เคยเป็นที่ตั้งของสถานีไฟฟ้านิวเคลียร์เดิมที่ปิดตัวในปี 2015)
ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
การตั้งโรงไฟฟ้า Small Modular Reactor ครั้งนี้สะท้อนความพยายามของอังกฤษในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานที่ไม่มีคาร์บอนในพอร์ตโฟลิโอ ปรับปรุงความมั่นคงด้านพลังงาน และสร้างเทคโนโลยีที่พร้อมส่งออก โดย Rolls-Royce หวังต่อยอดระบบ Small Modular Reactor เป็นสินค้าเชิงพาณิชย์สำหรับตลาดนานาชาติต่อไป
โครงการยังต้องผ่านขั้นตอนอนุญาต ความเห็นชอบด้านความปลอดภัย และการทดสอบก่อนเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ — แต่หากเดินหน้าได้ตามแผน Wylfa จะกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของการนำ Small Modular Reactor เข้าสู่กระแสหลักของพลังงานนิวเคลียร์ในยุโรป
tags : sky