ตุรกีก้าวขึ้นสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีสงครามทางทะเล หลังบริษัท Solid Aero เปิดตัว “TALAY” อากาศยานไร้คนขับ (UAV) ประเภท Wing-in-Ground (WIG) ที่มีความสามารถ “ล่องหน” เหนือผิวน้ำลำแรกของโลก พร้อมยืนยันว่าเข้าสู่สายการผลิตจริง ไม่ใช่เพียงต้นแบบหรือแนวคิด
การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการแซงหน้ามหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ รัสเซีย และจีน ที่ยังอยู่เพียงขั้นพัฒนา ส่งผลให้ตุรกีถูกจับตาในฐานะผู้กำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ของสงครามทางทะเล
จุดเด่นของ TALAY มีดังนี้
- ใช้เทคโนโลยี Wing-in-Ground Effect แบบที่เคยสร้างชื่อในยุคสงครามเย็น แต่ถูกพัฒนาใหม่ให้ทันสมัยและคล่องตัว
- สามารถบินเหนือผิวน้ำได้ในระดับเพียง 30 เซนติเมตร ถึง 100 เมตร ต่ำกว่าระดับเรดาร์ตรวจจับทั่วไป
- ดีไซน์ล่องหน พื้นที่หน้าตัดเรดาร์ต่ำ แทบตรวจไม่เจอ เหมาะสำหรับภารกิจแทรกซึม โจมตีท่าเรือ และลาดตระเวนเชิงรุก
- สมรรถนะและขีดความสามารถ
- ขนาดกะทัดรัด: ปีกกว้าง 3 เมตร ลำตัวยาว 2.8 เมตร
- บรรทุกอาวุธหรือเซ็นเซอร์ได้ 30 กิโลกรัม
- ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ระยะปฏิบัติการ 200 กม. ต่อการบิน 3 ชั่วโมง
- ระบบควบคุมด้วย AI รองรับทั้งโหมดอัตโนมัติและควบคุมโดยมนุษย์ แม้ในสภาวะคลื่นลมทะเลระดับ 3
- รองรับการโจมตีแบบ Swarm Attack หรือโจมตีพร้อมกันเป็นฝูง เพื่อเจาะระบบป้องกันเรือรบขนาดใหญ่
ก้าวสำคัญของสงครามทางทะเล
ได้รับการจัดแสดงครั้งแรกในงาน International Defense Industry Fair (IDEF 2025) ที่อิสตันบูล โดยจะเริ่มผลิตจริงในเดือนตุลาคม 2569 และส่งมอบชุดแรกให้กองทัพเรือตุรกีในต้นปี 2570
แม้ยังไม่เปิดเผยราคาและจำนวนการผลิต แต่ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนพลังเทคโนโลยีของตุรกี ยังอาจกลายเป็น จุดเปลี่ยนของยุทธศาสตร์ทางทะเลทั่วโลก เนื่องจากมหาอำนาจอื่นยังไม่สามารถพัฒนาได้ถึงขั้นผลิตจริง
การมาถึงของโดรนล่องหนเหนือผิวน้ำแบบ WIG นี้ กำลังบีบให้กองทัพเรือทั่วโลกต้องเร่งปรับยุทธศาสตร์การป้องกันภัยครั้งใหม่ เพื่อรับมือกับอาวุธแห่งอนาคตที่มาเร็วกว่าที่คาด
tags : businessworld, TNN
