ในยุคที่เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติกำลังเปลี่ยนหน้าตาวงการก่อสร้าง หอคอยสีขาว “ทอร์ อัลวา” (Tor Alva) ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งนวัตกรรมล่าสุด ด้วยความสูง 30 เมตร ทำให้ที่นี่ได้รับการบันทึกว่าเป็น อาคารที่สร้างด้วยเทคโนโลยีพิมพ์ 3 มิติที่สูงที่สุดในโลก
หอคอยแห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่ใน หมู่บ้าน Mulegns บนเทือกเขา มูเลกส์ (Mulegns) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยถาวรเพียง 11 คน แต่กลับเป็นสถานที่ที่เทคโนโลยีล้ำสมัยและสถาปัตยกรรมร่วมกันสร้างผลงานระดับโลก
Tor Alva ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งนวัตกรรมของหุบเขา
“ทอร์ อัลวา” ได้รับการเปรียบเปรยว่าเหมือน “เค้กหลายชั้นที่ถูกประดับประดา” ตัวอาคารถูกพัฒนาร่วมกันโดย สถาบันเทคโนโลยีแห่งซูริก (ETH Zurich) และมูลนิธิวัฒนธรรม Fundaziun Origen เพื่อนำเสนอศักยภาพของการพิมพ์อาคาร 3 มิติในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
ตัวอาคารประกอบด้วย เสาคอนกรีตสีขาว 32 ต้น ที่ไล่ระดับความสูงขึ้นไปถึงยอดโดม มีทั้งหมด 4 ชั้น และสามารถรองรับผู้เข้าชมได้สูงสุด 32 คนต่อครั้ง ภายในมีบันไดเชื่อมแต่ละชั้น และพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการหรือการแสดงอยู่บนชั้นบนสุด
การก่อสร้างหอคอยแห่งนี้ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 5 เดือน หรือราว 900 ชั่วโมง โดยสร้างแยกเป็นชิ้นส่วนและนำมาประกอบเข้ากับโครงสร้างเดิมบนไซต์จริง โดยใช้ หุ่นยนต์ 2 ตัว ร่วมกันทำงาน
ตัวแรก คือเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่สามารถพ่นวัสดุคล้ายซีเมนต์ออกมาเป็นชั้นบางเพียง 5 มิลลิเมตร โดยไม่ต้องใช้แบบหล่อ
ตัวที่สอง มีหน้าที่ฝัง เหล็กเสริมรูปวงแหวน เข้าไปทุกระยะ 26 เซนติเมตร เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างรูปทรงที่ซับซ้อน แตกแขนง และยากจะทำได้ด้วยวิธีหล่อแบบเดิม
เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมกลางปี 2025
“ทอร์ อัลวา” จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างเป็นทางการใน เดือนกรกฎาคม 2025 พร้อมพื้นที่จัดแสดงศิลปะและการแสดงสดบนเวทีด้านบนสุดของหอคอย ซึ่งจะดำรงอยู่ในสถานที่นี้เป็นระยะเวลา ประมาณ 5 ปี ก่อนจะถูกรื้อและนำไปติดตั้งในสถานที่ใหม่
นี่ไม่ใช่เพียงงานสถาปัตยกรรม แต่คือการประกาศว่า “เทคโนโลยี” กำลังทำให้ความเป็นไปไม่ได้ กลายเป็นจริง
tags : dbt.arch.ethz
