กระทรวงการคลังเตรียมเปิดตัวโครงการ “TouristDigiPay” อย่างเป็นทางการในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ เปิดทางให้นักท่องเที่ยวต่างชาตินำคริปโตเคอร์เรนซีมาแลกเป็นเงินบาทผ่าน e-Wallet เพื่อใช้จ่ายสินค้าและบริการระหว่างท่องเที่ยวในไทย โดยกำหนดวงเงินใช้จ่ายสูงสุดบัญชีละ 5 แสนบาทต่อเดือน
โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เคยเป็นตลาดหลักลดลง ส่งผลให้การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยชะลอตัว
ระบบ TouristDigiPay ทำงานอย่างไร
- นักท่องเที่ยวต้องแลกคริปโตเป็นเงินบาทผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต.
- เงินบาทที่ได้จะถูกเก็บใน e-Wallet ที่เชื่อมกับผู้ให้บริการ e-money ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย
- การใช้จ่ายทำได้ผ่านการสแกน QR code ตามร้านค้าทั่วประเทศ แต่ไม่สามารถนำคริปโตไปจ่ายตรงกับร้านค้าได้
- มีมาตรการ KYC/CDD เข้มงวดตามเกณฑ์ ปปง. เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านฟอกเงินและบัญชีม้า
- วงเงินการใช้งาน
- ร้านค้าทั่วไป: จำกัดไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือนต่อบัญชี
- ร้านค้าที่มีเครื่องรับบัตร (Merchant QR): จำกัดไม่เกิน 500,000 บาทต่อเดือนต่อบัญชี
- ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ เว้นแต่ปิดบัญชี
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะเป็นประธานงานแถลงข่าวเปิดตัว พร้อมผู้แทนจาก ก.ล.ต., ธปท. และ ปปง. มาร่วมชี้แจงรายละเอียด โดยเบื้องต้นโครงการจะอยู่ภายใต้ Sandbox ไม่เกิน 18 เดือน ก่อนพิจารณาขยายผลเต็มรูปแบบ
ด้านธปท. เผยกำลังพัฒนา Tourist Wallet เพื่อเชื่อมระบบการชำระเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่าน QR code ครอบคลุมประเทศที่ยังไม่รองรับ Cross Border QR Payment โดยในอนาคตอาจเชื่อมโยงเข้ากับบัตรเดบิตและเครดิตต่างชาติได้โดยตรง
หากโครงการเดินหน้าได้จริงจะไม่เพียงเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว แต่ยังเปิดทางให้ร้านค้าไทยมีช่องทางรับชำระเงินมากขึ้น ตอบโจทย์ทั้งเศรษฐกิจดิจิทัลและการท่องเที่ยวในคราวเดียว
tags : .thansettakij