หัวข้อข่าว

งานงอก ! CapCut ปรับเงื่อนไขกระทบผู้ใช้ทั่วโลก

CapCut

สายคอนเทนต์ต้องจับตา หลัง CapCut แอปตัดต่อวิดีโอยอดนิยมจากบริษัท ByteDance อัปเดตเงื่อนไขการให้บริการเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมข้อความที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในหมู่ผู้ใช้งานทั่วโลก – โดยเฉพาะผู้ที่ใช้คลิปวิดีโอไปเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย

CapCut

สิทธิ์ในวิดีโอ...อาจไม่ใช่ของคุณอีกต่อไป

หนึ่งในข้อกำหนดใหม่ที่ผู้ใช้หลายคนเพิ่งสังเกตเห็นคือ เนื้อหาทุกชิ้นที่ถูก “สร้างหรืออัปโหลด” ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Cap Cut จะถือว่าไม่เป็นความลับ และผู้ใช้ได้ให้ “สิทธิ์การใช้งานแบบทั่วโลก ปลอดค่าลิขสิทธิ์ ถ่ายโอนสิทธิ์ได้ และอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ต่อ” แก่บริษัท Cap Cut และพันธมิตรทันทีที่ใช้บริการ

ByteDance

กล่าวให้ชัดคือ บริษัทสามารถนำวิดีโอของผู้ใช้ไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ รวมถึงนำชื่อ รูปภาพ และเสียงของผู้ใช้ไปประกอบการระบุตัวตนหรือสร้างแคมเปญโฆษณาได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า และไม่จำเป็นต้องแจ้งให้เจ้าของคลิปทราบ

แม้เงื่อนไขลักษณะนี้จะถูกเพิ่มเข้ามาอย่างเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 2023 แต่ในเวอร์ชันล่าสุด ได้มีการขยายความครอบคลุมมากขึ้น จนทำให้ผู้ใช้จำนวนมากรู้สึก “ไม่ปลอดภัย” กับสิ่งที่ตนเองอัปโหลด แม้จะตั้งใจเผยแพร่แค่ในแวดวงเล็ก ๆ ก็ตาม

ความกังวลของผู้ใช้ เมื่อ "ฟรี" ไม่ได้แปลว่า "อิสระ"

CapCut2

ในยุคที่แอปตัดต่ออย่าง Cap Cut ถูกใช้สร้างคลิป TikTok, YouTube Shorts หรือคอนเทนต์แบรนด์มากมาย ข้อตกลงเช่นนี้อาจส่งผลต่อสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา หรือแม้แต่ทำให้ชื่อเสียงของผู้ใช้ถูกนำไปใช้โดยไม่รู้ตัว

นอกจากนี้ Cap Cut ยังระบุว่ามีสิทธิ์ลบเนื้อหาใด ๆ ออกจากระบบเมื่อใดก็ได้ โดยไม่ต้องแจ้งเจ้าของ ซึ่งยิ่งทำให้เกิดคำถามด้านความเป็นเจ้าของและความโปร่งใสของแพลตฟอร์มมากขึ้น

ทางรอดของสายครีเอเตอร์

  • อ่านข้อตกลงการใช้งานทุกครั้งก่อนอัปโหลด
  • หลีกเลี่ยงการใช้แอปที่มีเงื่อนไขไม่ชัดเจนกับคอนเทนต์เชิงพาณิชย์
  • หากเป็นคอนเทนต์สำคัญหรือมีแบรนด์เกี่ยวข้อง ควรตัดต่อผ่านซอฟต์แวร์ที่เก็บไว้เฉพาะในเครื่อง

แม้ Cap Cut จะยังเป็นเครื่องมือฟรีที่มีประสิทธิภาพ แต่คำว่า “ฟรี” อาจมีราคาที่ต้องจ่าย…ด้วยสิทธิ์ในคอนเทนต์ของตัวคุณเอง

Facebook

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *