หัวข้อข่าว

AI ช่วย Microsoft และ IBM ค้นพบ ‘แบตเตอรี่แห่งอนาคต’ จาก 10 ปี เหลือเพียงไม่กี่สัปดาห์

Microsoft x IBM

ในอดีต การค้นคว้าวัสดุใหม่สำหรับสร้าง “แบตเตอรี่ยุคถัดไป” เป็นเรื่องที่กินเวลานานนับทศวรรษ ต้องอาศัยการทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีกในห้องแล็บ แต่วันนี้ โลกของวัสดุศาสตร์กำลังเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง — เพราะ AI เข้ามาทำให้สิ่งที่เคยต้องใช้เวลาเป็นสิบปี กลายเป็นเรื่องของ “ไม่กี่สัปดาห์” เท่านั้น

จากข้อมูล 32 ล้านสูตรเคมี สู่การค้นพบวัสดุใหม่ภายใน 80 ชั่วโมง

Microsoft จับมือกับ Pacific Northwest National Laboratory (PNNL) ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ใช้แพลตฟอร์ม Azure Quantum Elements ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อคัดกรองสารประกอบอนินทรีย์กว่า 32 ล้านชนิด เป้าหมายคือการค้นหาวัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับใช้ใน แบตเตอรี่โซลิดสเตต (Solid-state Battery) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตของวงการพลังงาน

AI ช่วย Microsoft และ IBM

โมเดล AI ที่ชื่อ M3GNet สามารถจำลองคุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของสารแต่ละชนิดได้อย่างแม่นยำ ก่อนจะคัดเหลือเพียง 18 ตัวเลือกที่มีศักยภาพสูงสุดในเวลาเพียง 80 ชั่วโมง — กระบวนการที่ถ้าทำด้วยมืออาจต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปี

หนึ่งในผลลัพธ์คือวัสดุใหม่ชื่อ NaxLi3−xYCl6 ที่ผสมโซเดียมเข้ากับลิเธียม ทำให้สามารถลดการใช้ลิเธียมลงได้ถึง 70% ขณะยังคงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

โซลิดสเตต: แบตเตอรี่ที่ปลอดภัยกว่าและพลังงานหนาแน่นกว่า

แบตเตอรี่โซลิดสเตตกำลังถูกมองว่าเป็น “ตัวแทนของอนาคต” ที่จะมาแทนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เพราะใช้อิเล็กโทรไลต์ของแข็งแทนของเหลว ทำให้ปลอดภัยกว่า ไม่ติดไฟ และอัดพลังงานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์พกพายุคใหม่

แต่ความท้าทายใหญ่คือการหาวัสดุที่เหมาะสมกับการนำไฟฟ้าและความเสถียร ซึ่ง AI กำลังเข้ามาเป็น “ผู้เปลี่ยนเกม” ที่ทำให้การวิจัยเดินหน้าเร็วขึ้นกว่าที่เคย

IBM เดินหน้าใช้ “Digital Twins” จำลองแบตเตอรี่เสมือนจริง

ไม่เพียงแค่ ไมโครซอฟท์ — IBM Research ก็ใช้พลังของ AI ในการพัฒนาแบตเตอรี่ยุคใหม่เช่นกัน โดยสร้างแบบจำลอง “Digital Twins” ของแบตเตอรี่ เพื่อทดสอบและคาดการณ์การเสื่อมสภาพหลังการชาร์จกว่าหลายพันรอบในเวลาอันสั้น ช่วยให้นักวิจัยสามารถออกแบบแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นโดยไม่ต้องรอผลจากการทดสอบจริงเป็นปี

IBM ยังใช้โมเดล AI ที่ผ่านการเรียนรู้จากโมเลกุลนับพันล้านชนิด เพื่อคาดการณ์สูตรอิเล็กโทรไลต์ใหม่ที่อาจทำให้แบตเตอรี่มีความเสถียรและพลังงานสูงกว่าเดิม

ทั้ง ไมโครซอฟท์ และ IBM ต่างมองไปที่เทคโนโลยีถัดไปอย่าง Quantum Computing ซึ่งสามารถจำลองพฤติกรรมของอะตอมและโมเลกุลได้ละเอียดระดับควอนตัม ช่วยเปิดประตูสู่การค้นพบวัสดุใหม่ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเร่งให้โลกเข้าใกล้ “ยุคพลังงานสะอาด” ที่ไม่ต้องพึ่งลิเธียมและทรัพยากรหายากอีกต่อไป — และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่ทรงพลัง ปลอดภัย และยั่งยืนกว่าที่มนุษย์เคยสร้างมา

tags : techspot

Facebook

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *