ปกติใครที่ชอบเล่น PlayStation 5 และอยากเอาเครื่องไปนอกบ้านต้องพกพา PlayStation Portal ไปเสมอและแน่นอนว่าเครื่องเล่นนี้เปิดตัวตั้งแต่ พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมาเล่นได้แบบสั่งเครื่องเปิดตัว แต่ว่าล่าสุด Sony ได้ปล่อยฟีเจอร์ “Cloud Streaming” ให้รองรับกับ PS Potral โดยไม่ต้องพุ่งพาเครื่อง PlayStation 5 อีกต่อไป
จาก Remote Play สู่ Cloud Streaming เต็มตัว
ที่ผ่านมา PS Portal ทำได้เพียง “Remote Play” ซึ่งบังคับให้ผู้เล่นต้องเชื่อมต่อกับเครื่อง PS5 ของตัวเองที่เปิดอยู่ (หรือโหมด Rest) ตลอดเวลา
แต่อัปเดตใหม่นี้ สำหรับสมาชิก PlayStation Plus Premium คุณสามารถสตรีมเกม PS5 ที่รองรับได้ โดยตรงจากคลาวด์ นี่คือการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่หมายความว่า
- ไม่ต้องเปิดเครื่อง PS5 ที่บ้าน: คุณสามารถเล่นเกมได้แม้ PS5 ของคุณจะปิดอยู่
- เล่นได้ทุกที่: ขอแค่มี Wi-Fi ความเร็วสูง (เช่น ที่โรงแรม, คาเฟ่, หรือบ้านเพื่อน)
- เครื่องไม่ซ้ำซ้อน: สามารถเล่นเกมบน PS Portal ในขณะที่คนอื่นกำลังใช้ PS5 ที่บ้านดูหนัง หรือเล่นเกมอื่นภายใต้บัญชีแยกกันได้
เล่นเกมอะไรได้บ้าง
ส่วนที่น่าตื่นเต้นที่สุด สมาชิก PS Plus Premium จะสามารถสตรีมเกมได้ 2 รูปแบบ
เกม PS5 จากคลังเกมของคุณเอง
- คุณสามารถสตรีมเกม PS5 “ที่ซื้อแบบดิจิทัล” ที่คุณเป็นเจ้าของได้นับพันเกม!
- เกมดังที่รองรับ ณ วันเปิดตัว ได้แก่: Astro Bot, Borderlands 4, Final Fantasy VII Rebirth, Fortnite, Ghost of Yōtei, Grand Theft Auto V และ Resident Evil 4
เกมจาก PlayStation Plus Game Catalog:
- สตรีมเกมดังหลายร้อยเกมจากแคตตาล็อก PS Plus Premium
- ตัวอย่างเช่น: Cyberpunk 2077, God of War Ragnarök, Hogwarts Legacy, Sword of the Sea และ The Last of Us Part II Remastered
อัปเดตครั้งนี้มีอะไรใหม่บ้าง?
นอกจากการสตรีมเกมผ่านคลาวด์แล้ว อัปเดตนี้ยังอัดแน่นฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เกมเมอร์ต้องการ
1. UI ดีไซน์ใหม่
หน้าจอหลักถูกออกแบบใหม่ให้มี 3 แท็บชัดเจน
- Remote Play: (แบบเดิม) เชื่อมต่อกับ PS5 ของคุณ
- Cloud Streaming: (ของใหม่) หน้าจอสำหรับสมาชิก Premium เพื่อสตรีมเกมจากคลาวด์โดยตรง ไม่ต้องรอโหลด
- Search: ค้นหาเกมที่รองรับ Cloud Streaming
2. อัปเกรดประสบการณ์การเล่น
- รองรับ 3D Audio: !! เสียง 3 มิติมาแล้ว! ใช้งานได้ทั้งโหมด Remote Play และ Cloud Streaming (เมื่อใช้หูฟังแบบมีสาย หรือหูฟัง Pulse Explore/Pulse Elite)
- Passcode Lock: ล็อกเครื่องด้วยรหัสผ่านได้แล้ว ป้องกันคนอื่นมาแอบใช้
- Network Status Screen: เพิ่มหน้าจอ “Show Network Status” ใน Quick Menu เพื่อให้เช็กความเสถียรของอินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆ
3. ฟีเจอร์ใหม่ (เฉพาะโหมด Cloud Streaming)
- In-Game Store: รองรับการซื้อของในเกม! คุณสามารถซื้อ Add-on หรือเติมเงินในเกม (In-game currencies) ได้ทันทีระหว่างสตรีม
- Accessibility Options: เพิ่มตัวเลือกการเข้าถึง เช่น Screen Reader และการปรับขนาดตัวอักษร
- Game Invitations: รับคำเชิญชวนเล่นเกมจากเพื่อน และกดเข้าร่วมเซสชันมัลติเพลเยอร์ได้โดยตรงจาก Quick Menu
เรียกว่าใครที่ไม่รู้จะซื้อ PS Potral มาทำอะไรนี่แหล่ะคือ “การปลดล็อก” ศักยภาพที่แท้จริงของ PS Portal ทำให้มันกลายเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณค่ามหาศาลสำหรับสมาชิก PS Plus Premium และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่ไม่ต้องการยึดติดกับการเล่นเกมหน้าทีวีอีกต่อไป
tags :http://PlayStation
