ใครต้องการความแรงจาก Tesla รอได้เลยเพราะตอนนี้ค่ายรถไฟฟ้าดังเปิดตัว Tesla Model Y Performance ใหม่ รถสปอร์ตครอสโอเวอร์ขุมพลังไฟฟ้าที่มาพร้อมพละกำลังมหาศาลถึง 460 แรงม้า และอัตราเร่งที่พร้อมจะท้าชนซูเปอร์คาร์แถวหน้าของวงการ
สมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ในร่างครอสโอเวอร์
หัวใจสำคัญของ Model Y Performance คือการยกชุดมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ‘Performance 4DU’ มาจากรุ่นพี่อย่าง Model 3 Performance ทำให้มีพละกำลังรวมสูงสุดถึง 460 แรงม้า ส่งผลให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. (0-60 ไมล์/ชม.) ทำได้ในเวลาเพียง 3.3 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. (155 ไมล์/ชม.)
ด้วยตัวเลขดังกล่าว Tesla Model Y Performance ไม่เพียงแต่จะทิ้งห่างรถสปอร์ตซีดานตัวแรงอย่าง BMW M5 หรือ Audi RS6 แต่ยังมีอัตราเร่งที่เหนือกว่าซูเปอร์คาร์อย่าง Porsche 911 GT3 อีกด้วย
ไม่ใช่แค่แรง แต่ยังวิ่งได้ไกล
แม้จะอัปเกรดความแรงขึ้นอย่างมหาศาล แต่ Tesla เคลมว่า Model Y Performance ยังคงมีระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ โดยสามารถวิ่งได้ไกลถึง 579 กิโลเมตร (360 ไมล์) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้เซลล์แบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่มีความหนาแน่นสูง (high-density) ทำให้มีระยะทางวิ่งใกล้เคียงกับรุ่น Long Range AWD เลยทีเดียว
อัปเกรดช่วงล่างและดีไซน์ใหม่หมดจด
การเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีแค่ระบบขับเคลื่อน แต่ยังรวมถึงการยกเครื่องช่วงล่างใหม่ทั้งหมด โดยได้นำ โช้คอัพแบบ Adaptive มาจาก Model 3 Performance แต่มีการปรับจูนให้เหมาะสมกับตัวรถโดยเฉพาะ พร้อมทั้งฮาร์ดแวร์ช่วงล่างและชุดล้อ-ยางที่ปรับให้เหมาะสมกับการขับขี่สมรรถนะสูง
รูปลักษณ์ภายนอกถูกปรับให้ดุดันและแตกต่างจากรุ่นปกติอย่างชัดเจน
- กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่เน้นหลักอากาศพลศาสตร์
- กันชนหลัง พร้อมแผงดิฟฟิวเซอร์สไตล์สปอร์ต
- สปอยเลอร์หลัง ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์
- ล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้วลายสปอร์ต
- คาลิปเปอร์เบรก สีแดงสด
ภายในห้องโดยสารที่สปอร์ตยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารได้รับการอัปเกรดเพื่อรองรับการขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น ด้วย เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต ที่มีปีกเบาะด้านข้างใหญ่ขึ้นเพื่อโอบรัดลำตัวขณะเข้าโค้ง พร้อมฟังก์ชันทำความร้อนและระบายอากาศ นอกจากนี้ยังมาพร้อม หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 16 นิ้ว ซึ่ง Tesla ระบุว่าเป็นหน้าจอที่มีความละเอียดสูงสุดเท่าที่เคยมีมา
Tesla Model Y Performance จะถูกผลิตที่โรงงาน Giga Berlin ในประเทศเยอรมนี
โดยจะเริ่มส่งมอบในยุโรปและตะวันออกกลางเป็นที่แรกตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ต้องรอติดตามกันประเทศไทยจะนำเข้ามาเมื่อไหร่ต่อไป
tags : http://AutoCar UK
