Microsoft เดินหน้าเปลี่ยนโลกการทำงานออฟฟิศอีกครั้ง ด้วยการอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Microsoft 365 Copilot เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่ Agent Mode และ Office Agent ภายใต้แนวคิด “Vibe Working” — การทำงานร่วมกับ AI อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนมีเพื่อนร่วมทีมมืออาชีพมานั่งข้าง ๆ
Agent Mode ผู้ช่วยใน Word และ Excel ที่ “คิดและทำงานแทนเราได้”
ไม่ต้องจำสูตร Excel หรือเสียเวลาจัดหน้าเอกสาร Word อีกต่อไป เพราะ Agent Mode คือ Copilot ที่เข้าใจบริบทการทำงานจริงของผู้ใช้
ใน Excel ผู้ใช้สามารถพิมพ์คำสั่งง่าย ๆ อย่าง “ช่วยวิเคราะห์ยอดขายสินค้า แล้วทำกราฟสรุปให้หน่อย” ระบบจะคำนวณข้อมูล สร้างสูตร และแปลงผลลัพธ์ออกมาเป็นกราฟสวยงามโดยอัตโนมัติ
ส่วนใน Word Agent Mode เปลี่ยนการเขียนเอกสารให้ง่ายเหมือนคุยกับผู้ช่วยส่วนตัว เช่น “อัปเดตรายงานเดือนสิงหาเป็นของเดือนกันยา ดึงข้อมูลจากอีเมล ‘Sept Data Pull’ แล้วสรุปเทียบกับเดือนที่แล้วให้ด้วย” Copilot จะจัดการร่างเนื้อหา แก้ไข และจัดฟอร์แมตให้เสร็จครบ
Office Agent: ผู้จัดการโปรเจกต์ในรูปแบบแชท Microsoft
หาก Agent Mode คือผู้ช่วยในโปรแกรม Office Agent ก็เปรียบเสมือน “ผู้จัดการโปรเจกต์” ที่สั่งงานได้จากหน้าต่างแชทของ Copilot เหมาะกับงานที่ต้องเริ่มจากศูนย์
ยกตัวอย่างเช่น สั่งว่า “ช่วยทำสไลด์สรุป 5 เทรนด์การตลาดเสื้อผ้าแนว Athleisure ให้หน่อย” Office Agent จะถามกลับเพื่อความชัดเจนเรื่องสไตล์และกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นค้นคว้าข้อมูลล่าสุดจากอินเทอร์เน็ต และสร้างสไลด์คุณภาพสูงให้เสร็จในครั้งเดียว
สรุปความต่าง
Agent Mode: เหมาะกับการปรับปรุงไฟล์ที่มีอยู่แล้วใน Word/Excel ทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยแก้ไขและพัฒนาเนื้อหา
Office Agent: เหมาะกับการสร้างงานใหม่จากศูนย์ คิด วางแผน และค้นคว้าข้อมูลได้ในตัว
ก้าวต่อไปของการทำงานร่วมกับ AI
การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ของการทำงานในยุค AI — จากเดิมที่มนุษย์ต้อง “ลงมือทำทุกอย่างเอง” สู่การ “สั่งการและร่วมคิด” กับ AI ที่เข้าใจบริบทการทำงานและสามารถจัดการสิ่งที่ซับซ้อนได้แทน
แม้จะเริ่มเปิดให้ใช้งานในบางกลุ่มภายใต้ Frontier Program แต่ก็เป็นสัญญาณชัดเจนว่า ไมโครซอฟท์ กำลังนำพาโลกออฟฟิศเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว ยุคที่คนทำงานไม่ต้องต่อสู้กับงานซ้ำซากอีกต่อไป แต่ได้ใช้เวลาไปกับ “ความคิดสร้างสรรค์” และ “กลยุทธ์” อย่างแท้จริง
tags : microsof